สูตรการทำปาท่องโก๋

 

สูตรการทำปาท่องโก๋คู่ กรอบ,นุ่ม

ส่วนผสมที่ต้องใช้
1.แป้งสาลี อเนกประสงค์(ตราฮกแดง) 1/2 ก.ก.
2.น้ำสะอาด (3+1/2 ขีด) หรือ 350 กรัม
3.เกลือป่น 1 ช.ต.
4.น้ำตาลทราย 1 ช.ต.
5.แอมโมเนียไบคาร์บอเนทล์ 2 ช.ช.
6.โซดา ไบคาร์บอเนทล์(โซดาเย็น) 1/4 ช.ช.
7.ผงฟู (สูตรดับเบิ้ลฯ) 1 ช.ช.
8.ยีสต์แห้งฯ 1/4 ช.ช.
9.น้ำมันพืชฯ 1 ช.ต.
(สูตรหมักแป้ง 2-3 ชั่วโมง จึงนำมาทอดได้ครับ )

วิธีการทำ
1.เตรียม แป้งสาลี 1/2 ก.ก. + ผสมเข้ากันกับ( โซดา,+ผงฟู,+ยีสต์แห้ง) เข้าด้วยกัน พักใว้
2. ส่วนน้ำ,ใส่ส่วนผสม+เกลื่อป่น+แอมโมเนียฯ+น้ำตาลทราย+น้ำมันพืช ผสมให้เข้ากันคนจนละลาย
3.(ให้นำส่วนของแป้ง,และ ส่วนของน้ำที่เตรียมใว้ นำมาผสมให้เข้ากัน )โดยการคลุกเดล้า หรือการนวดเบาๆ
(ห้ามนวดแป้งแรงเกินไป หรือการขยำแป้งจนออกตามร่องมือ )
ให้ใช้การผสมแค่พอแป้งกับน้ำเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เนื้อแป้งยิ่งหยาบ ยิ่งดีครับ แล้วหมักแป้งทิ้งใว้ 2-3 ชั่วโมง (นำมาทอดได้ตามขั้นตอน...ให้เราเรียนแบบทำตามที่เราได้เห็นตามร้านขายปาท่องโก๋ทั่วๆไป ทำขายกันอยู่
(ทำง่ายๆครับ) หรือ เราจะทอดเป็น รูปร่างอะไรก็ได้ครับ
(ส่วนน้ำมัน ที่เราใช้ทอด ให้ใช้เป็นน้ำมันปามล์ทั่วไป เพราะจะทนความร้อนได้ดีกว่า )
แต่ถ้าจะให้ปาท่องโก๋ออกมาเหลืองสวยโดยทั่วไป ให้เรานำเอาน้ำมันที่ใช้แล้ว มาผสมลงไปด้วย จะทำให้ปาท่องโก๋เหลืองสวยมากยิ่งขึ้น

ปาท่องโก๋ สูตร 1

เครื่องปรุง ส่วนผสมนี้ได้ 35 ตัว
แป้งตราว่าว 1/2 กก.
แป้งตราห่าน 1 ขีด
แป้งตรากบ 2 ขีด
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด 5 ขีด
น้ำมันถั่ว 2 กก.
เช้าก่า (เชื้อเหม็นหรือแอมโมเนียมคาร์บอเนต) 1 ช้อนโต๊ะ
เปี่ยเอี้ย น้อยกว่า 1/2 ช้อนชาเล็กน้อย

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งทั้ง 3 อย่าง แล้วผสมเข้าด้วยกัน ตักเก็บไว้ 2 ขีด แล้วนำแป้งผสม
ส่วนที่เหลือ ทำเป็นหลุมบนแผ่นกระดาน หรือ ภาชนะแบนราบ
2. นำเช้าก่า เปี่ยเอี้ย เกลือ มาผสมน้ำสะอาด จนละลายเข้ากันดี ก็นำไปเทลงหลุมแป้งที่เตรียมไว้
3. ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันดี วิธีนวดคือ นวดแป้งตลบ ซ้าย-ขวา กลับไป-กลับมา ส่วนบน-ส่วนล่าง กลับไป-กลับมา
ระหว่างนวดนี้ ก็โรยแป้งส่วนที่ตักเก็บไว้ เพื่อไม่ให้แป้งติดกระดาน นวดเป็นเวลา 30 นาทีจนแป้งเข้ากันดี
ดูได้จาก ถ้าเอามือลูบแล้ว แป้งเรียบไม่สะดุดมือ แล้วจึงนำผ้าขาวบางชุบน้ำพอหมาด คลุมไว้
ทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง อย่างมาก 6 ชั่วโมง
4. เมื่อหมักแป้งได้ที่แล้ว เอากระทะใส่น้ำมันถั่วตั้งไฟให้ร้อน ระหว่างนี้นำแป้ง ที่ได้มาคลึงให้ยาวชอบ
แล้วตัดเป็นท่อนตามชอบ แล้วนำมาประกบคู่กันโดย ใช้น้ำเปล่าแตะตรงกลาง เมื่อประกบแล้วให้ดังยาวอย่างแผ่วๆ ยาวกว่าเดิมเล็กน้อย
แล้วนำลงไปทอด ในน้ำมัน คอยกลับไป-กลับมาพอเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานร้อนๆ
หมายเหตุุุ เหลือเก็บใส่ตู้เย็น นำกลับมาทอดใหม่อีก

ปาท่องโก๋ สูตร 2

ส่วนประกอบ
แป้งสาลีตราว่าว 6 กก.
ผงฟู 5 ช้อนโต๊ะ
ผงโซดาไบคาร์บอเนต 4 ช้อนชา
วานิลา(ถ้ามี) 4 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 1/2 กก.
เกลือ 10 ช้อนโต๊ะ
แอมโมเนีย 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปูนใส 12 ช้อนโต๊ะ
ยีสต์ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 12 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างคลุกเข้ากับแป้ง แล้วเติมน้ำพอเหนียว นวดเบาๆทิ้งไว้ 30 นาที นวดรอบสองไม่ต้องนวดนาน
แล้วปิดด้วยผ้าชุบน้ำพอหมาดๆคลุมไว้ นำไปทอดไฟกลางๆ รับประทาน

ปาท่องโก๋ สูตร 3

ส่วนผสม
แป้งตราฮก 2 กก.
น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนตวง
น้ำมันพืช 1 ช้อนตวง
ผงฟู 1 ช้อนตวง
โซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนตวง
แป้งสาลี(ตราว่าว) 1 ช้อนตวง
แอมโมเนียผง 1 ช้อนตวง
น้ำ 1+1/2 กก.

วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมด มาผสม คนให้เข้ากัน จนเกลือ น้ำตาลละลาย แล้วเทนวดใส่แป้ง นวดไปทางเดียวกันประมาณ 10 นาที
พักแป้งไว้สักพัก (5 นาที) กลับแป้งนวดอีกครั้ง แล้วพักไว้ 4 ชั่วโมง แล้วนำผ้าดิบชุบน้ำบิดพอหมาดๆ คลุมไว้
นำไปทอดในน้ำมันพืช เดือดไฟกลางๆ ถ้าเหลือ ก็เก็บใส่ตู้เย็น ไว้ทอดวันต่อๆไปได้อีก

ปาท่องโก๋ สูตร 4

ส่วนผสม
1. น้ำ 3-4 ถ้วยตวง
2. ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ
5. แอมโมเนีย 1 ช้อนโต๊ะ
6. โซดาไบคาบอเนต 2 เมล็ดถั่วเขียวหรือน้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
7. ผงฟู 1/4 ช้อนชา
8. มาการีน 1 ช้อนชา
9. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
10. แป้งตราต้นสน 1 กิโลกรัม

หมายเหตุุ น้ำมันที่ทอด ควรใช้น้ำปาล์ม เพราะจะทำให้ปาท่องโก๋ไม่มัน
(เปิดน้ำมันทอด ไม่ควรเกิน 5 ครั้ง)

วิธีทำ
1. นำส่วนที่ 1-10 ผสมให้เข้ากัน โดยการคนให้ละลายพักไว้
2. นำแป้งมาร่อน
3. นำข้อที่ 1 เทใส่แป้งที่ร่อน คนไปให้เข้ากันลงในแป้งที่ร่อน
4. นวดด้วยฝ่ามือให้เนียนไม่ติดมือ
5. ปิดให้สนิท หมักไว้ 7-8 ชั่วโมงหรือ 12 ชั่วโมงก็ได้
6. ใช้มือชุบแป้งเพื่อหยิบแป้งที่หมักไม่ให้ติดมือ นำมาปิดผ้าไว้ที่โต๊ะ ตัดแป้งมาปั้นให้ยาวๆจับเป็นคู่ๆลงทอดในน้ำมัน ร้อนปานกลาง

ที่มา เว็บ asoke.info

ปาท่องโก๋ สูตร 1 (แบบกรอบนอก นุ่มใน และกลวงเล็กน้อย)

ส่วนผสม
แป้งสาลีตราฮกแดง 1 กิโลกรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เกลือ 4 ช้อนชา
น้ำ 3 + 3 /4 - 4 ถ้วย
ยีสต์ 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
แอมโมเนีย (เช้าก่า) 1 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
ผสมยีสต์ ผงฟู และแป้ง รวมกันแล้วพักไว้ ละลายน้ำตาล เกลือ แอมโมเนีย ในน้ำ เติมน้ำมันพืช ไข่ไก่
คนให้เข้ากันดี ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมแป้ง นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง
ตัดแป้งเป็นแท่งยาว ๆ โรยแป้งนวลเพื่อไม่ให้ติดมือ ยืดแป้งออกให้เป็นแผ่นบาง ๆ หนาประมาณ 1 /2 เซนติเมตร
ตัดเป็นชิ้นยาว ๆ ใช้ไม้จุ่มน้ำแตะตรงกลาง ประกบแป้งเข้าหากัน นำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด

ปาท่องโก๋ สูตร 2 (แบบนุ่ม มีเนื้อ เมื่อเย็นแล้วเนื้อนิ่มไม่เหนียว)

ส่วนผสม
แป้งสาลีตราฮกแดง 1 กิโลกรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 3 1/2 ถ้วย
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
ผงโซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
แอมโมเนีย (เช้าก่า) 1/2 ช้อนชา
ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
ผสมโซดา ผงฟู และแป้ง รวมกันแล้วพักไว้ ละลายน้ำตาล เกลือ แอมโมเนีย ในน้ำ เติมน้ำมันพืช ไข่ไก่
คนให้เข้ากันดี ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมแป้ง นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง นำไปทอด

1. การนวดแป้ง จะไม่นวดนานเกินไป เพียงแค่นวดให้ส่วนผสมเข้ากันดีก็พอ

2. ควรละลาย น้ำตาล แอมโมเนีย และเกลือในส่วนผสมที่เป็นน้ำก่อน แล้วคนให้ละลายจนหมด
จึงนำไปผสมในส่วนผสมที่เป็นของแห้ง จะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้เร็ว

3. อัตราส่วนระหว่างแป้งกับน้ำในแต่ละสูตร อาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของแป้ง
ถ้าเป็นแป้งเก่าอาจจะต้องเพิ่มน้ำบ้างเล็กน้อย

4. ควรมีการพักแป้งอย่างน้อย 3 - 4 ชั่วโมง ก่อนทอด ถ้าทอดเร็วเกินไป ปาท่องโก๋จะเนื้อแน่น
วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ สังเกตจากแป้งจะมีฟองอากาศมาก ก็สามารถนำมาทดลองทอดได้

5. ควรใช้น้ำมันปาล์มในการทอด และน้ำมันที่เหลือแต่ละครั้งควรนำมากรอง ด้วยผ้าขาวบางทุกครั้งก่อนที่จะนำมาทอดใหม่
และควรเปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ทอดบ่อย ๆ ถ้าน้ำมันเก่ามากจะเกิดสารพิษในน้ำมัน ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

6. ความร้อนที่ใช้ทอดควรใช้ความร้อนปานกลาง ถ้าใช้ไฟแรงเกินไป
จะทำให้ผิวของปาท่องโก๋ไม่สวย มีสีไม่สม่ำเสมอ และผิวนอกนิ่มไม่กรอบ

7. การตัดแป้ง ควรแผ่นแป้งให้หนาประมาณ 1 /2 เซนติเมตร หากแป้งหนามากเกินไปจะทำให้แป้งเนื้อแน่น
เวลาแตะน้ำติดตรงกลาง ประกบติดกัน ไม่ต้องบีบแป้งแน่น เพราถ้าบีบแป้งแน่นเกินไป จะทำให้ตัวขนมไม่กางออกมาเวลาทอด

8. เวลาทอด เมื่อหย่อนแป้งลงในน้ำมัน พอแป้งลอยขึ้นมา ควรใช้ตะเกียบพลิกกลับไปกลับมา จะทำให้แป้งแห้งฟู และ พองตัวดี ที่สำคัญอย่าใส่ปาท่องโก๋มากเกินไป ในการทอดแต่ละครั้ง

9. เราสามารถตัดยีสต์ที่อยู่ในสูตรออกได้ ถ้าต้องการให้ขนมขึ้นช้าหรือกลัวทอดไม่ทันขาย แต่ต้องใช้เวลาในการหมักให้นานขึ้น
และถ้าอยากให้ปาท่องโก๋มีรสชาติดีขึ้น ให้ให้เติมผงชูรสลงไปในสูตร 2 - 3 ช้อนชา

**ขอบคุณอาจารย์นวรัตน์ เอี่ยมพิทักษ์กิจ เอื้อเฟื้อสูตรและเทคนิคการทำปาท่องโก๋

การทำปาท่องโก๋

วิธีการทำปาท่องโก๋ กับ วิธีใช้น้ำมันทอดอย่างปลอดภัย

รับสูตรปาท่องโก๋จากมือโปร ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ให้ไว้ 4 สูตร ดังนี้
สูตร 1
.....เครื่องปรุง แป้งตราว่าว 1/2 ก.ก. แป้งตราห่าน 1 ขีด แป้งตรากบ 2 ขีด เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ 5 ขีด น้ำมันถั่ว 2 ก.ก. เช้าก่า (เชื้อเหม็นหรือแอมโมเนียมคาร์บอเนต) 1 ช้อนโต๊ะ เปี่ยเอี้ย น้อยกว่า 1/2 ช้อนชาเล็กน้อย วิธีทำ
.........1.ร่อนแป้งทั้ง 3 อย่าง ผสมเข้าด้วยกัน ตักเก็บไว้
.........2 ขีด นำส่วนที่เหลือทำเป็นหลุมบนที่แบนราบ 2.นำเช้าก่า เปี่ยเอี้ย เกลือ ผสมน้ำสะอาดจนละลายเข้ากันดี เทลงหลุมแป้งที่เตรียมไว้
.........3.นวดแป้งตลบซ้าย-ขวา บน-ล่างกลับไปกลับมา โรยแป้งที่ตักเก็บไว้เพื่อไม่ให้แป้งติดกระดาน นวด 30 นาทีจนแป้งเข้ากันดี นำผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดคลุมทิ้งไว้ 4-6 ชั่วโมง
.........4.เอากระทะใส่น้ำมันถั่วตั้งไฟให้ร้อน นำแป้งที่ได้มาคลึงยาว ตัดเป็นท่อน แล้วนำมาประกบคู่โดยใช้น้ำเปล่าแตะตรงกลาง เมื่อประกบแล้วดึงแผ่วๆ ให้ยาวกว่าเดิมเล็กน้อย นำลงทอดในน้ำมันกลับไปมาพอเหลืองตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

สูตร 2
......ส่วนประกอบ แป้งสาลีตราว่าว 6 ก.ก. ผงฟู 5 ช้อนโต๊ะ ผงโซดาไบคาร์บอเนต 4 ช้อนชา วานิลา(ถ้ามี) 4 ช้อนชา น้ำตาลทรายแดง 1/2 ก.ก. เกลือ 10 ช้อนโต๊ะ แอมโมเนีย 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปูนใส 12 ช้อนโต๊ะ ยีสต์ 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 12 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำส่วนผสมทุกอย่างคลุกเข้ากับแป้งแล้วเติมน้ำพอเหนียว นวดเบาๆ ทิ้งไว้ 30 นาที นวดรอบสองไม่ต้องนวดนาน แล้วปิดด้วยผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ คลุมไว้ นำไปทอดไฟกลางๆ

สูตร 3
.....ส่วนผสม แป้งตราฮก 2 ก.ก. น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนตวง น้ำมันพืช 1 ช้อนตวง ผงฟู 1 ช้อนตวง โซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนตวง แป้งสาลีตราว่าว 1 ช้อนตวง แอมโมเนียผง 1 ช้อนตวง น้ำ 1 1/2 กก. วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสม คนให้เข้ากันจนเกลือ น้ำตาลละลาย แล้วเทนวดใส่แป้ง นวดไปทางเดียวกันประมาณ 10 นาที พักแป้งไว้ 5 นาที กลับแป้งนวดอีกครั้ง แล้วพักไว้ 4 ชั่วโมง นำผ้าดิบชุบน้ำบิดพอหมาดๆ คลุมไว้ นำไปทอด

สูตร 4
.....ส่วนผสม น้ำ 3-4 ถ้วยตวง ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ แอมโมเนีย 1 ช้อนโต๊ะ โซดาไบคาร์บอเนต 2 เมล็ดถั่วเขียว หรือน้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ ผงฟู 1/4 ช้อนชา มาการีน 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ แป้งตราต้นสน 1 ก.ก. วิธีทำ 1.นำทั้งหมดผสมให้เข้ากันโดยการคนให้ละลาย พักไว้ 2.นำแป้งมาร่อน 3.นำข้อที่ 1 เทใส่แป้งที่ร่อน คนไปให้เข้ากัน 4.นวดให้เนียนไม่ติดมือ 5.ปิดให้สนิท หมักไว้ 7-12 ชั่วโมง 6.ตัดแป้งมาปั้นให้ยาวๆ จับเป็นคู่ๆ ลงทอด

การใช้น้ำมันซ้ำ
นอกจากคุณค่าลดลง ในหนูทดลองยังพบว่าทำให้การเจริญเติบโตลดลง ตับและไตมีขนาดใหญ่ มีการสะสมไขมันในตับ การหลั่งน้ำย่อยทำลายสารพิษในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น และไขมันที่ถูกออกซิไดซ์ปริมาณสูงอาจทำให้ไลโปโปรตีนชนิดแอลดีแอลมีโอกาสเกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งพบความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดโรคมะเร็งที่ปอดกับสารสูดไอระเหยจากการผัดหรือทอดอาหารเป็นเวลานาน และพบสารก่อกลายพันธุ์ในไอระเหยของน้ำมันทอดอาหาร ก่อให้เกิดเนื้องอกในตับและปอด และก่อมะเร็งเม็ดเลือดขาวในหนูทดลอง

ในครัวเรือนไม่ควรใช้น้ำมันทอดอาหารซ้ำเกิน 2 ครั้ง หากจำเป็น ให้เทน้ำมันเก่าทิ้ง 1 ใน 3 และเติมน้ำมันใหม่ก่อนเริ่มทอดอาหารครั้งต่อไป แต่ถ้าน้ำมันมีกลิ่นเหม็นหืน เหนียวข้น สีดำ ฟองมาก เป็นควันง่ายและเหม็นไหม้ ควรทิ้งไป เปลี่ยนน้ำมันบ่อยขึ้นหากทอดอาหารประเภทเนื้อที่มีส่วนผสมของเกลือหรือเครื่องปรุงรสปริมาณมาก เก็บน้ำมันใช้แล้วไว้ในภาชนะสแตนเลสหรือแก้วปิดฝาสนิท เก็บในที่เย็น ไม่โดนแสงสว่าง และบริเวณทอดอาหารควรติดเครื่องดูดควัน มีการระบายอากาศที่ดี

ที่มา ข่าวสดรายวัน วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6360

การทำนามบัตรด้วย microsoft word

ทำนามบัตรแบบประหยัดด้วย Microsoft Wordไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะค่ะว่าเราสามารถใช้ Microsoft Word ทำนามบัตรได้ คุณภาพและหน้าตา ก็ไม่แพ้ซอฟต์แวร์ที่ออก แบบมาโดยเฉพาะ บางทีอาจจะดีกว่าซอฟต์แวร์สำหรับทำนามบัตรที่คุณมีอยู่แล้วก็ได้ ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากอะไรมาก หากปกติคุณใช้ Microsoft Word สำหรับพิมพ์งานอยู่แล้ว

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะค่ะว่าเราสามารถใช้ Microsoft Word ทำนามบัตรได้ คุณภาพและ หน้าตา ก็ไม่แพ้ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ บางทีอาจจะดีกว่าซอฟต์แวร์สำหรับทำนามบัตรที่คุณมีอยู่แล้วก็ได้ ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากอะไรมาก หากปกติคุณใช้ Microsoft Word สำหรับพิมพ์งานอยู่แล้ว

1. เริ่มด้วยเปิดซอฟต์แวร์ Microsoft Word ขึ้นมาก่อน จากนั้นเราต้องปรับระยะ ขอบทุกๆ ด้านก่อน แนะนำให้ปรับเป็นขนาด 1 นิ้วทุกๆ ด้าน หรือประมาณ 0.5 นิ้วก็ได้ หากคุณต้องการสร้างนามบัตรที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (รูปที่ 1) เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางนามบัตรที่เราจะสร้างกัน

รูปที่ 1
รูปที่ 2

2. ต่อไปเราจะใช้ Textbox หรือชื่อภาษาไทยว่ากล่องข้อความ ในการสร้างนามบัตรครั้งนี้ ให้คลิ้กที่เมนู Insert เลือก Text box เลือกแบบ Horizontal ซึ่งจะเป็นกล่องข้อความแบบแนวนอน (รูปที่ 2)

3. เมื่อเราเลือกแล้วจะปรากฏกล่องข้อความขึ้นมา อย่าเพิ่งไปใส่ข้อความ หรือภาพนะค่ะ ให้ ปรับขนาดก่อน โดยคลิ้กขวาที่ขอบของกล่องข้อความ แล้วเลือก Format Text Box (รูปที่ 3)

รูปที่ 3
รูปที่ 4

4. จะปรากฏหน้าต่าง Format Text Box ขึ้นมาให้เราเลือกไปที่หน้าการปรับ Size ให้ใส่ขนาด Height เป็น 2 นิ้ว และ Width เป็น 3.5 นิ้ว ซึ่งขนาดนี้เป็นขนาดมาตรฐานของนามบัตรทั่วๆ ไป ใครอยาก ได้รูปแบบแปลกไม่เหมือนใคร ก็สามารถเลือกปรับขนาดของกล่องข้อความได้จากหน้าต่างนี้ (รูปที่ 4)

5. เมื่อเราปรับขนาดเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถพิมพ์ข้อความเข้าไปด้านใน หรือว่าจะแทรกรูป ภาพก็ได้ วิธีการก็เหมือนกับการพิมพ์ข้อความปกติในหน้าเอกสาร เราสามารถจัดแต่ง ใส่พื้นหลัง หรือว่าเคลื่อนย้ายภาพ หรือข้อความได้ตามปกติ (รูปที่ 5)

รูปที่ 5
รูปที่ 6

6. ต่อไปเราจะก๊อบกล่องข้อความอันแรก เพื่อสร้างกล่องข้อความอื่นๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งทำให้ เสียเวลาทีละอัน ให้คลิ้กขวาที่กล่องข้อความ แล้วเลือกก๊อบค่ะ (รูปที่ 6)

รูปที่ 7
รูปที่ 8

7. เมื่อก๊อบแล้วก็ให้ทำการวางลงไป (Paste) จะปรากฏกล่องข้อความซ้อนกัน เราสามารถย้ายได้ ให้ย้ายมาวางด้านข้าง ให้พอดี หากไม่พอดีก็สามารถเลื่อนกล่องข้อความอันแรกได้ (รูปที่ 7)

รูปที่ 9

8. หลังจากก๊อบจากนั้นให้นำมาวางลงไป (Paste) แล้ว เราต้องจัดการวางกล่องข้อ ความให้ครบเต็มหน้ากระดาษ A4 ซึ่งเราสามารถก๊อบกล่องข้อความครั้งละ 2 หรือมากกว่านั้นได้ จะได้ช่วยประหยัดเวลา วิธีการก็เพียงกด Shift ค้างไว้ แล้วเอาเมาส์ไปคลิ้กกล่องข้อความที่ 2 หรืออื่นๆ จากนั้นก็ก๊อบแล้วก็วางลงไป (Paste) ปกติ (รูปที่ 8)

9. จากนั้นก็วางให้เต็มหน้า ซึ่งใน 1 หน้ากระดาษ A4 จะสามารถวางนามบัตรขนาด 3.5 x 2 นิ้วได้จำนวน 10 ใบค่ะ ต่อไปก็สามารถสั่งพิมพ์ได้ทันที ง่ายๆ แบบนี้ แถมยังไม่ต้องอาศัยซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆ ด้วย ใครอยากทำนามบัตรไว้ แจกเพื่อน หรือว่าจะประยุกต์ไปใช้ในงานอื่นๆ ก็เชิญได้เลยค่ะ (รูปที่ 9) 

โดย Ms. Kanittha S. : writer@maildozy.com

การทำเทียนหอมกันยุง

             ใครชอบแต่งบ้านให้ได้ทั้งความสวยงามและได้ประโยชน์ด้วยละก็ นี่แหละ ใช่เลย เทียนหอมกันยุง เป็นงานหัตถกรรมที่มีความสวยงามสามารถตกแต่งได้ตามใจผู้ทำ สิ่งที่จะต้องเรียนรู้ก็เป็นเรื่องของวัสดุต่างๆที่นำมาใช้และเทคนิค วิธีทำ เมื่อทราบขั้นตอนต่างๆเหล่านี้เมื่อได้ลงมือทำไปบ้างแล้วที่นี้ล่ะ แบบเทียนสวยๆหอมๆจากใจคุณก็จะออกมาได้เอง ยังไงส่งภาพมาให้ดูกันบ้างนะครับ
               มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เรามาดูกันว่าจะต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง

1

หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ใช้สำหรับละลายเทียนเพื่อความสะดวก เพราะตัวหม้อจะมีระบบตัดไฟเมื่อน้ำเทียนเดือด เมื่อเทียนแข็งตัวและเราต้องการให้เทียนหลอมละลายอีกเราก็กดปุ่มอีกครั้ง

2

หม้อสองชั้นสำหรับตุ๋นเทียน ชั้นล่างเป็นหม้อใบใหญ่กว่าสำหรับใส่น้ำ ใบบนสำหรับใส่เทียนเป็นหม้อใบเล็กกว่ามีด้ามจับ ถ้าใช้หม้อชั้นเดียวเนื้อเทียนจะถูกความร้อนโดยตรงซึ่งร้อนเกินไปและไม่สะดวกแก่การทำงาน

3

ถาดขนมสี่เหลี่ยมขนาดต่างๆ ควรเป็นแบบที่ทำจากอลูมิเนียมจะได้ทนความร้อนได้ดี

4

ช้อน สำหรับตักเทียน

5

แม่พิมพ์ สำหรับยอดเทียนให้เป็นรูปต่างๆ

6

เหล็กคีบ ใช้หนีบภาชนะร้อนๆจะได้ไม่ร้อนมือ

7

กาละมังสเตนเลสใบเล็ก

8

ทัพพีกลมสำหรับตักน้ำเทียน

9

กรรไกรสำหรับตัดแต่งเทียน

10

แม่พิมพ์ สำหรัยยอดเทียนให้เป็นรูปต่างๆ กรณีที่ต้องการทำรูปแบบต่างๆให้ดูสวยงาม

11

เหล็กแหลม สำหรับปักไส้เทียน

         วัสดุที่เราใช้ในการทำเทียน

1 พาราฟินแวกซ์  มีลักษณะเป็นของแข็งใสมีทั้งแบบก้อนและเม็ด มีจุดหลอมเหลวที ่58°c - 62°c
2

โพลีเอททีลีนแวกซ์ หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่า พีอี หรือโพลีเอสเตอร์ เอสเตอร์รีน มีลักษณะเป็นเกล็ด ช่วยทำให้เทียนจุดได้นานขึ้นปกติจะใช้ประมาณ 2--10 เปอร์เซนต์

3 สเตียริคเอซิค ช่วยทำให้เทียนมีผิวลื่นแกะออกจากพิมพ์ง่าย มีทั้งแบบเป็นเกล็ดและเม็ดไข่ปลา ปกติจะใช้ 4 ช้อนโต๊ะต่อพาราฟิน 1/2 กก.
4 ไมโครแวกซ์ ช่วยทำให้เทียนมีความเหนียวง่ายต่อการปั้นหรือแกะสลัก มีลักษณะเป็นแผ่นสีขาว ถ้าใช้แบบคุณภาพต่ำจะทำให้มีควันมาก
5 ไส้เทียน มี 2 แบบคือแบบที่ฟอกแล้วจะมีสีขาวและแบบที่ยังไม่ได้ฟอกจะมีสีขาวขุ่น
6 สีผสมเทียน 
7 น้ำมันตะไคร้หอม

               เรื่องของวัสดุในการทำเทียนหอมกันยุงผมได้แจงรายละเอียดไว้เผื่อสำหรับในการทำเทียนแบบสวยงามด้วยเลย จึงดูค่อนข้างจะมีส่วนประกอบมาก ลองทำดูก็แล้วกันครับมีไอเดียอะไรในเรื่องของรูปแบบหน้าตาก็ดัดแปลงได้ไม่ผิดกติกา วัสดุหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนโดยเฉพาะร้านใหญ่ๆจะมีขายส่วนอุปกรณ์หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป บางรายการเช่นแบบพิมพ์ขนมรูปต่างๆมีขายตามร้านขายอุปกรณ์ทำขนม

วิธีทำ

1 นำแผ่นฟาราฟินแวกซ์หั่นเป็นท่อนๆใส่หม้อขึ้นตั้งความร้อนปานกลาง เคี้ยวไปจนละลายเป็นของเหลว
2 ใสสีตามลงไปโดยใส่ทีละน้อยตามต้องการคนจนสีเนียนเข้ากันทั่วทั้งหม้อหากสีจืดไปค่อยเติมสีเพิ่ม
3 ใส่หัวน้ำมันตะไคร้หอมประมาณ 3-4 หยดต่อเทียน 1/2 กก.
4 หยอดเทียนใส่พิมพ์ รอจนแข็งตัวจึงแกะออกจากพิมพ์ ตกแต่งผิวด้วยมีดหรือกรรไกร หรืออาจหยอดใส่ถ้วยแก้วเล็กๆก็ได้
5 นำมาตกแต่งด้วยริบบิ้นหรืออื่นๆเพื่อให้ดูสวย

             การทำเทียนแบบนี้ก็เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่สร้างสรรได้ตามความคิดของผู้ทำ รูปแบบของหน้าตาที่ออกมาจะสวยอย่างไรก็คงคล้ายๆกับการแต่งหน้าเค้กที่ต้องอาศัยทักษะ การสังเกตุจดจำรูปแบบต่างๆที่เคยเห็นและนำมาประยุกต์หรืออาจออกแบบตามแนวความคิดที่จินตนาการขึ้นเอง

การจัดประชุมการปรับปรุงแก้ไข PM

                   ด้วยกองกลางได้จัดประชุมการปรับปรุงแก้ไข PM 14 และ  PM 17   โดยมีตัวแทนจากคณะทั้ง 9 คณะที่รับผิดชอบเข้าร่วมประชุม  ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553  เวลา 9.30 น.  ณ ห้องประชุมรพีพัฒน์

                 ขอฝากกระจายข่าวให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบด้วย

                 ขอบคุณค่ะ

การสืบค้นกฏ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่งที่เกี่ยวข้องกับบริหารงานบุคคล

                           สามารถศึกษาค้นคว้าได้ที่เว็บไซต์กองบริหารงานบุคคล  www.hrm.offpre.rmutp.ac.th   หัวข้อ  ข้อควรรู้  ซึ่งจะเก็บข้อมูลไว้มากมาย

ขั้นตอนการขอมีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ

           ติดต่อสอบถามได้ที่งานทะเบียนประวัติฯ 0 2282 9009 ต่อ 6062  หรือสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่  www.hrm.offpre.rmutp.ac.th

บุคลากรในกองบริหารงานบุคคล

นางสาวสมจิตต์   มหัธนันท์       ผู้อำนวยการกองบริหารงานบุคคล

1. งานบริหารทั่วไป

    - นางจริยา  ชายหงษ์

    - นางสุนิสา  ขุมทรัพย์

    - นายวัชรพงษ์   ยิ้มนิยม

    - นางสาวพิมพกานต์  นามประเสริฐ

2.  งานพัฒนาระบบงานและอัตรากำลัง

    - นางนงลักษณ์   ทองนาค

   -  นางสาวรัตนาวดี  เลิศลบ

3. งานพัฒนาบุคคล

    - นางยุพา  จันทรเกษมจิต

    - นางสาววันใหม่  สุกใส

    - นางสาวนันท์ธยาภรณ์   สมิตินันท์

4. งานทะเบียนประวัติและบำเหน็จความชอบ

    - นางสาวนงค์ลักษณ์  สุทธิวานิชยะกุล

    - นางสาวจงดี  แม้นเหมือน

    - นางศศิธร  แสงพุฒ

     - นางสาวเรณู  เหมือนเอี่ยม

4.

โครงสร้างการบริหารงานของกอง

งานภายในกองบริหารงานบุคคล  แบ่งออกเป็น 7 งาน  ดังนี้

      1.  งานบริหารทั่วไป

      2.  งานพัฒนาระบบงานและอัตรากำลัง

      3.  งานสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง

      4.  งานพัฒนาบุคคล

      5.  งานทะเบียนประวัติและบำเหน็จความชอบ

       6.  งานวินัยและนิติการ

       7.  งานสวัสดิการ