การเข้าถึง

การพัฒนานักศึกษานั้นเป็นเรื่องยาก หากเราขาดความเข้าถึงนักศึกษา การเข้าถึงสามารถทำได้หลายวิธี หลายโอกาส หลายครั้ง แล้วแต่สถานการณ์ นักศึกษาเมื่อพ้นสายตาผู้ปกครองแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมและรู้เรื่องราวที่ซ่อนไว้ อาจารย์นั้นถึงแม้มีหน้าที่สอนเนื้อหาวิชาการด้านวิชาชีพให้พวกเขาแล้ว ยังต้องกล้าที่จะเข้าถึง ต่างจากอยากรู้อยากเห็นเรื่องของนักศึกษามาก ความกล้าและรู้ในสิ่งที่อาจารย์จำเป็นต้องรู้ รู้เพื่อพัฒนาเขา รู้เพื่อเข้าใจเขา การเข้าถึงนั้นทำได้มากมายแต่สำหรับผมแล้วการเข้าถึงส่วนมากจะใช้วิธีถามพวกเขาตรงๆ ซึ่งแน่นอนหากเขาไม่ไว้ใจเราเขาไม่ตอบข้อมูลที่ถูกต้องแน่นอน(ปกปิด) เราควรอ่านใจ ท่าทาง น้ำเสียง พฤติกรรมเขาให้ออก หรือเรียกว่าภาษากาย และภาษาใจให้ได้ แล้วค่อยๆ ศึกษาในส่วนที่เราคิดว่าจะเป็นสำหรับพัฒนาเขาเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นหากเราบังเอิญรู้ ในจรรยาบรรณจำเป็นต้องเก็บความลับหรือเรื่องที่ควรปกปิดนั้น(ต้องไม่ขัดศิลธรรมอันดี)ให้ได้ หากเราเจาะลึกเรื่องราวของเขามากเกินขอบเขตของเรื่องที่ควรรู้จะเรียกว่า "....." ดังนั้นควรต้องมีสติตลอดเวลา ที่สำคัญของจริงใจต่อศิษย์เสมอ ไม่รำเอียง และต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะพูดแนวบวกหรือลบ (ติดตามตอนต่อไป)

การประยุกต์ใช้ประสบการณ์...

ประสบการณ์การเป็นผู้ประเมิน สมศ.อาชีวศึกษา
เป็นครั้งแรกในการเป็นผู้ตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาของ สมศ. ในการตรวจประเมินคุณภาพวิทยาลัยฯ แห่งหนึ่ง รู้สึกว่าการตรวจประเมินแล้วต้องตัดสินใครสักคนว่าผ่านหรือไม่ผ่านมาตรฐานนั้นมันเครียดยิ่งนัก พอๆ กับการชี้เป็นชี้ตายในการตัดสินเกรดนักศึกษาเลยทีเดียว สถานศึกษาก็พยายามทำข้อมูลทั้งจริง และไม่จริง สภาพเป็นจริงและจัดฉากขึ้น เพื่อให้สถาบันของตนนั้นรอดจากการตรวจประเมินให้ได้ทั้งสิ้น ซึ่งผมเองก็เคยรู้สึกแบบนี้หลายๆ ครั้ง
การตรวจประเมินทำให้ผมได้ประสบการณ์มากมาย ทั้งความรู้เรื่องกฎเกณฑ์มาตรฐานของ สมศ. ได้เห็นเพื่ออาจารย์และนักศึกษาต่างสถาบันฯ ว่าเขามีชีวิตการทำงานอย่างไร จริงๆ แล้วในประเทศไทยยังมีวิทยาลัยอาชีวศึกษาดีๆ อีกมากมาย ที่ควรพัฒนาชุดแข็งเรื่องของประสบการณ์วิชาชีพให้เป็นเลิศให้ได้ ไม่ใช่จ้องอยากเป็นมหาวิทยาลัย แต่มหาวิทยาลัยที่มีมากมายในประเทศควรจะสร้างหลักสูตรและสร้างอาจารย์สอนต่อยอดความรู้ของผู้ที่จบอาชีวศึกษาให้ได้ จะเป็นหนทางที่ดีกว่าการจ้องจะเป็นมหาวิทยาลัย จนลืมรากเหง้าความเป็นสถาบันอาชีวศึกษาที่สำคัญ เป็นสถาบันรองรับคนขาดแคลนทุน ขาดแคลนโอกาส อยากได้ความรู้ไปประกอบอาชีพได้จริง ซึ่งต่างจากมหาวิทยาลัยฯ ที่สร้างคนเพื่อเข้าบริหารจัดการ ใช้ทักษะวิชาการ ทฤษฎีมากกว่าวิชาชีพจริง ที่คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ต้องการ