Booming Chaina

สาธารณรัฐประชาชนจีนประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และแหล่งอุตสาหกรรมอันดับหนึ่งของโลก ที่ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดนั้น เป็นเครื่องยืนยันจุดยืนของประเทศในการก้าวเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ทำให้จุดยืนเดิมในเรื่องความเท่าเทียมกันของคนในชาติ การปิดประเทศเพื่อพัฒนาประเทศโดยไม่พึ่งพิงต่างประเทศในยุคคอมมิวนิสกำลังหมดสิ้นลง โลกซึ่งเชื่อมถึงกันหมดด้วยเทคโนโลยีสื่อสาร กระแสทุนนิยมกำลังครอบงำความคิดของคนภายในจีน ถึงโอกาสสู่ความร่ำรวยอย่างเท่าเทียมกัน คือทุกคนมีโอกาสร่ำรวย ไม่ใช่ทุกคนเสมอภาคด้วยการมีชีวิตอยู่ ผลจากความยากจน การถูกกดขี่ ถูกเอารัดเอาเปรียบของคนชั้นล่าง ในเมื่อประเทศจีนมีความพร้อม และเปิดกว้างรับระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ทุกคนในประเทศก็จึงเห็นโอกาสที่ทุกคนสามารถสร้างฐานะของตนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกวิถีทาง
ทำให้เกิดการอพยพเข้าเมืองสำคัญในมณฑลใหญ่ของจีน เพื่อเสี่ยงดวงทำการค้ารูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่ในระดับอุตสาหกรรม การสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยขาดระบบการควบคุมมลพิษ ที่จะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของเมืองทั้งอากาศ น้ำ และดิน ผลที่ตามมาก็คือ ระบบเศรษฐกิจเติบโตอย่างมาก มีการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย โรงงานอุตสาหกรรม ระบบคมนาคม ด้วยเทคโนโลยีแบบจีน คือ มีความรวดเร็ว ประหยัด ประสิทธิภาพพอใช้ จำหน่ายได้ปริมาณมาก เพราะต้องการจำหน่ายสินค้าได้จำนวนมาก ในเวลาที่น้อย ด้วยความย่อมเยาว์ของราคาและคุณภาพพอใช้
ความหลงทุนนิยม จนลืมระบบวัฒนธรรมที่เก่าแก่ และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายกลมกลืนกับธรรมชาติ ทำให้ปัจจุบันประเทศจีนกำลังได้รับผลจากการเร่งทำลายสภาพแวดล้อม เพื่อแลกกับความร่ำรวย ซึ่งบางโอกาสเงินจากความร่ำรวยนั้น ถูกนำไปใช้บรรเทาทุกข์ บูรณะซ่อมแซมเมือง จากภัยธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น พายุ แผ่นดินไหว น้ำท่วม เป็นต้น ทั้งนี้ยังไม่รวมมลพิษที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ ดีที่ว่าการทำลายล้างอันรวดเร็วนี้ ยังมีอัตราส่วนไม่มาก เมื่อเทียบกับพื้นที่มหาศาลของประเทศจีนที่เหลืออยู่ แต่สักวันมลพิษคงปกคลุมประเทศจีนและเพื่อนบ้านทั้งหมด หากจีนยังปล่อยการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และไร้จิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป
Questions:
1. การเปลี่ยนแปลงการปกครองระบบคอมมิวนิสแบบจีนใหม่ โดยการนำของเติ้ง เสี่ยวผิง ที่รับระบบทุนนิยม เปิดประเทศรับการลงทุนจากนานาชาติ เพื่อให้คนจีนมีงานทำ สร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อาศัยแรงงานราคาถูก พื้นที่ลงทุน และทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมหาศาล ดึงดูดนักลงทุนจากหลายประเทศจำนวนมาก จนประสบผลสำเร็จ ประเทศจีนกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำภายในเวลาไม่กี่ปี แนวคิดจีนใหม่นี้ส่งผลกระทบอย่างไรต่อประเทศทั้งด้านสภาพแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
2. ความยากจน และไร้โอกาสในชนบท อพยพตนเองเข้าเมืองใหญ่เพื่อแสวงหาโอกาสทำธุรกิจ ให้หลุดพ้นความยากจน เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่หลงไหลในความร่ำรวย วิถีชีวิตที่ดีขึ้น แต่หากทุกคนในจีนคิดทำธุรกิจแบบไร้จริยธรรมต่อสภาพแวดล้อม ใช้วัตถุดิบคุณภาพต่ำ กระบวนการผลิตแบบไร้ประสิทธิภาพ เครื่องจักรสันดาปไม่สมบูรณ์ก่อมลพิษ เพื่อขายของจำนวนมาก ใช้ราคาถูกล่อใจคนซื้อซึ่งมีกำลังซื้อต่ำ เพราะคนจนมีมากกว่าคนร่ำรวย จึงบริโภคสินค้าเหล่านั้น อย่างไม่มีทางเลือก ผู้บริโภคเหล่านั้นจึงร่วมกันทำลายโลกอย่างไม่รู้ตัว เราจะเตือนผู้บริโภค และสร้างให้ผู้ผลิตมีความตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร
3. แน่นอนว่าอนาคตประเทศจีนอาจเป็นมหาอำนาจหลาย ๆ ด้าน เช่น เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี เป็นต้น คิดอย่างไรหากต้นแบบความสำเร็จนี้จะถูกนำมาใช้กับประเทศไทย
4. วิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศ ประกอบกับความฉลาดในเรื่องการค้าขาย ความเป็นชาตินิยม ความจำที่เป็นเลิศ ความขยัน และความอดทนในการดำเนินชีวิตของคนจีน สามารถทำให้จีนพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม ประเพณี โบราณสถาน และวิถีขีวิตดั้งเดิมที่หลากหลาย มีประวัติศาตร์อันยาวนานของตน สนใจวัตถุนิยม ฟุ่มเฟือย และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมากมาย สิ่งใดจะทำให้จีนรู้จักพอ และหันมาดูแลสภาพแวดล้อม โดยยังคงความเป็นมหาอำนาจต่อไป
5. จะเป็นเช่นไรหากประเทศขนาดใหญ่ ประชากรมากที่สุดในโลก เป็นแหล่งผลิตมลพิษต่อโลก สร้างความผิดปกติให้สภาพอากาศ แหล่งน้ำ และดิน สภาพแวดล้อมจีนเสื่อมโทรม ประเทศใกล้เคียง คงพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ใครจะเป็นผู้เจรจาให้จีนหยุดทำลายสภาพแวดล้อม และจีนควรมีแนวทางพัฒนาประเทศต่อไปอย่างไร

Product User and Place

เรือง บทบาทของผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ประดับบาทวิถีต่อผู้ใช้งาน ที่ส่งผลต่อการรับรู้ในสภาพแวดล้อมของสถานที่บริเวณบาทวิถีเลียบชายหาดเมืองพัทยา
The street furniture products action from user requirements affect to perception in sidewalk place’s on the Pattaya beach.

บาทวิถีบริเวณเลียบชายหาดนั้น มีสภาพแวดล้อมแตกต่างจากบาทวิถีทั่วไป ทั้งในเรื่องของกระแสลม ไอเค็มจากน้ำทะเล แสงแดด พื้นที่ซึ่งเป็นทราย ระดับน้ำทะเล และปัจจัยมนุษย์ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ บนพื้นที่ชายทะเล ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ประดับบาทวิถี ที่อยู่บริเวณบาทวิถีเลียบชายทะเล จะมีความชำรุดเสียหายจากกิจกรรม ปริมาณผู้เข้าใช้พื้นที่ และจากธรรมชาติ
เฟอร์นิเจอร์ประดับบาทวิถี หรือประดับถนนนั้น เป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบภูมิทัศน์ของเมือง ซึ่งบทบาทของผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ประดับบาทวิถี (street furniture) บริเวณบาทวิถีเลียบชายหาด ที่อำนวยความสะดวกต่อผู้เข้าใช้สถานที่บริเวณบาทวิถีเลียบชายหาดเมืองพัทยา ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาประมาณ 6 ล้านคนต่อปี นำรายได้เข้าประเทศและประชาชนในท้องถิ่นประมาณ 59,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งหากสภาพแวดล้อมบริเวณพื้นที่บาทวิถีเลียบชายหาดของเมืองพัทยา มีเฟอร์นิเจอร์ประดับบาทวิถีที่สามารรถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน หรือสังคมในพื้นที่ ในอันที่จะกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ถึงประสบการณ์ที่ได้มาท่องเที่ยว หรือใช้สถานที่บริเวณบาทวิถีเลียบชายหาดเมืองพัทยา ซึ่งหากเฟอร์นิเจอร์ประดับบาทวิถีนั้นสามารถถ่ายทอดบรรยากาศ สภาพแวดล้อมของสถานที่บริเวณชายหาดพัทยา ให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวผู้ใช้สถานที่ และเฟอร์นิเจอร์ประดับบาทวิถีได้ จะสามารถทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณบาทวิถีเลียบชายหาดพัทยา มีความน่าสนใจ และดึงดูดให้มีผู้เข้ามาใช้สถานที่เพิ่มมากขึ้น

Urban Resilience

การแลกเปลี่ยนพึ่งพาทรัยพยากรระหว่างท้องถิ่น ระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการดำรงอยู่ เนื่องจากเมืองมีทรัพยากรธรรมชาติที่ข้อจำกัด และผลิตทรัพยากรที่จำเป็นได้เฉพาะที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมของตน นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่หากระหว่างเมืองเกิดความไม่เข้าใจกันจนเกิดข้อพิพาษย์กันระหว่างท้องถิ่น หรือระหว่างประเทศแล้ว เมืองไม่ได้ถูกปรับวิธีการนำทรัพยากรมาใช้อย่างเหมาะสมกับเมืองของตนแล้ว อาจส่งผลให้ประชากรภายในเมืองอยู่ในสภาวะวิกฤตได้ ดังจะเห็นในประเทศที่เจริญแล้วหลายประเทศส่งคนมาเรียนรู้และนำเอาองค์ความรู้จากเมืองซึ่งสมบูรณ์ไปพัฒนาเมืองของตน เพื่อความเจริญพึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งตามความเป็นจริงไม่อาจทำได้แน่นอน เพราะทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ในสภาวะปกตินี้การเป็นเมืองที่มีความยืดหยุ่นต่อไปนั้น ต้องอาศัยการบูรณาการองค์ความรู้ในหลายวิชาที่สำคัญ เช่น นักผังเมือง สถาปนิก นักวิทยาศาสตร์ นักชีววิทยา เป็นต้น เพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมอย่างเป็นเครือข่าย (Network) โยงใยกันระหว่างเมือง ระหว่างประเทศ ระหว่างทวีป หรือภายนอกโลกหากพบความผิดปกติ ให้นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนร่วมกันพิจารณา เพื่อพัฒนาการจัดการสภาพแวดล้อม และแก้ปัญหาโดยผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพที่หลากหลายอย่างรวดเร็วและมีคุณธรรม จะสามารถช่วยป้องกันภัยจากธรรมชาติ สามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และเกิดความยั่งยืนของเมืองได้ ช่วยลดความสูญเสียอย่างมากต่อเมืองได้ทั้งทรัพยสิน ร่างกาย และจิตใจ ซึ่งไม่อาจประเมินค่าได้

ความเชื่อ....ว่า

1191906349
ความเชื่อและขนบธรรมเนียมประเพณี
มนุษย์ในโลกตะวันออกแต่ละชาติแต่ละภาษา มีความเชื่อถือที่แตกต่างกันออกไปบ้างและคล้ายคลึงกันบ้าง ส่วนที่คล้ายคลึงกันนั้น เป็นเพียงเรื่องของศาสนา ซึ่งเป็นสื่อที่ปฏิบัติอย่างเดียวกันเพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น ศาสนาพุทธ เป็นต้น มีการอุปสมบทกุลบุตร และพิธีกรรมทางศาสนาเหมือนกัน แต่การสร้างสรรค์ศิลปะของแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป เช่น ประเทศไทยกับประเทศพม่า เวียดนาม เป็นต้น แสดงให้เห็นว่า ขนบธรรมเนียม ประเพณี และการประพฤติปฏิบัติที่กระทำอย่างเดียวกันในแต่ละชาตินั้น ยังแตกต่างกันออกไปด้วยและทุกประเทศในตะวันออก ก็มีเอกลักษณ์ประจำชาติของตนอย่างชัดเจนในเรื่องของความเชื่อถือและขนบธรรมเนียมประเพณีอาจศึกษาได้ดังต่อไปนี้

มนุษย์ในตะวันออกมิได้มีศาสนาใดศาสนาหนึ่งที่เป็นแกนสำคัญของสังคมร่วมกัน แต่จะแยกกันออกไปตามความเชื่อถือและแม้ว่าส่วนหนึ่งจะนับถือศาสนาพุทธ แต่ไม่มีศูนย์กลางอันเป็นแกนสำคัญร่วมกันเหมือนคริสต์ศาสนาโรมันคาทอริก ส่วนศาสนาอิสลามแม้ว่าจะมีแหล่งศักดิ์สิทธิ์ร่วมกันที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย แต่ก็มิได้เป็นไปในรูปองค์กรเหมือนแหล่งกลางที่กรุงวาติกันของโรมันคาทอลิก นอกจากนั้นในประเทศยังมีความเชื่อถือที่แตกต่างกันออกไปมาก เช่น ในอินเดียมีลัทธิมากมาย ในญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกันแต่ก็มีขนบธรรมเนียมทางสังคมที่เข้มแข็งเคร่งครัดอย่างยิ่ง จึงทำให้มีการสร้างสรรค์ศิลปะเพื่อจรรโลงศาสนาที่แตกต่างกันไปมากและเห้นได้อย่างเด่นชัดอีกด้วย
ความเชื่อถือในศาสนาของชาวตะวันออก แตกต่างกันออกไปแต่ละศาสนา บางศาสนาเชื่อว่ามนุษย์เกิดมาด้วยกรรม ซึ่งตนเองได้กระทำไว้แต่ในชาติปางก่อน ผลอันบังเกิดในชาตินี้ก็ป็นกระแสของกรรมแต่ชาติปางก่อนมีส่วนให้เป็นไปด้วย และการกระทำในชาตินี้ก็ยังมีผลไปถึงชาติหน้าด้วย แต่บางศาสนามีความเชื่อรุนแรงมากกว่านั้น โดยเชื่อว่าหากกระทำตนเองให้ต่ำต้อย หรือกดดันตัวเองให้ทนทุกข์ทรมานมากก็จะยิ่งได้บุญกุศลมาก โดยการปล่อยจิตใจให้ลุล่วงพ้นไปสู่ภพที่สูงกว่าและในบางศาสนามีความเชื่อในเรื่องวิญญาณบรรพบุรษอยู่มาก การน้อมเคารพบรรพบุรุษและการควบคุมจริยธรรมในการประพฤติปฏิบัคิเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ทั้งหมดนี้จึงมีส่วนสร้างสรรค์ศิลปะที่แตกต่างกันออกไปตามแนวปรัชญาของศาสนา
ชาติตะวันตกให้ความสนใจกับจิตวิญญาณมาก ความผูกพันระหว่างคนเป็นกับคนตาย ยังเป็นเยื่อใยที่เคร่งครัด จึงมีการเซ่นไหว้และบวงสรวงระลึกถึงกัน แม้บางประเทศจะมีการเผาศพ เช่น ประเทศไทย แต่บางประเทศก็ยังนิยมนิยมฝังศพ เพื่อรักษาเรือนร่างไว้ชั่วนิรันดร จะถูกทำลายไม่ได้ ในการตกแต่งตามพิธีการเหล่านี้เอง ที่ใช้ศิลปะเข้าช่วยเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดแบบอย่างศิลปะเป็นพิธีการขึ้นอีกรูปแบบหนึ่ง
ขนบประเพณีต่าง ๆ ของชาวตะวันออก เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยึดมั่นผูกพันอยู่กับชนชาติในอดีต

Good governance

cartoon-board_conflict000-300x229
ธรรมาภิบาล
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
ธรรมาภิบาล (อังกฤษ: good governance) คือ การปกครอง การบริหาร การจัดการ การควบคุมดูแล กิจการต่าง ๆ ให้เป็นไปในครรลองธรรม นอกจากนี้ยังหมายถึงการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งภาครัฐและเอกชน ธรรมที่ใช้ในการบริหารงานนี้ มีความหมายอย่างกว้าง กล่าวคือ หาได้มีความหมายเพียงหลักธรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่รวมถึง ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม และความถูกต้องชอบธรรมทั้งปวง ซึ่งวิญญูชนพึงมีและพึงประพฤติปฏิบัติ อาทิ ความโปร่งใสตรวจสอบได้ การปราศจากการแทรกแซงจากองค์กรภายนอก เป็นต้น

ธรรมาภิบาล เป็นหลักการที่นำมาใช้บริหารงานในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย ด้วยเหตุเพราะ ช่วยสร้างสรรค์และส่งเสริมองค์กรให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพ อาทิ พนักงานต่างทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตและขยันหมั่นเพียร ทำให้ผลประกอบการขององค์กรธุรกิจนั้นขยายตัว นอกจากนี้แล้วยังทำให้บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ศรัทธาและเชื่อมั่นในองค์กรนั้น ๆ อันจะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น องค์กรที่โปร่งใส ย่อมได้รับความไว้วางใจในการร่วมทำธุรกิจ รัฐบาลที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและประชาชน ตลอดจนส่งผลดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ เป็นต้น

สำหรับบทบาทของสำนักงาน ก.พ.ร. ในเรื่องธรรมาภิบาลนั้น สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพหลักในการสร้างการตระหนักในเรื่องธรรมาภิบาล โดยอาศัยเครื่องมือต่าง ๆ เช่น การจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ การนำธรรมาภิบาลมากำหนดไว้เป็นตัวชี้วัดตามคำรับรองฯ เช่น ความโปร่งใส การจัดเวทีให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วม เป็นต้น

ทั้งนี้ ยังมีอีกแนวคิดหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องธรรมาภิบาล คือ ธรรมาภิบาลเป็นเรื่องการวางกลไกให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล การวางโครงสร้าง ในขณะที่อีกด้านหนึ่งของเหรียญคือ เรื่องตัวบุคคล เป็นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาลเป็นการวางระบบวางโครงสร้างเพื่อควบคุมให้คนไม่ประพฤติปฏิบัติ แต่จริยธรรมจะลึกกว่านั้น โดยมีการปลูกฝังจิตสำนึก ต้องไม่ทุจริต ไม่ประพฤติมิชอบ ทั้งสองด้านจะต้องไปด้วยกันจึงจะยั่งยืน [สำนักงาน ก.พ.ร.]

ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5".

Question+Answer=QA.(Quality Assurance)

การประกันคุณภาพการศึกษา ด้านการเรียนการสอน ด้านการให้บริการนักศึกษา ด้านบริการวิชาชีพให้ประชาชน การประกัน ประกันอะไร ประกันว่าสถานศึกษาจะมีคุณภาพ คุณภาพก็มีหลายด้าน หลายตัวชี้วัด หลายบริบท หลายความเชื่อมั่น ที่สำคัญอยู่ที่หัวใจและสมองของสถานศึกษา จะสามารถใช้เหตุผลชี้แจง คำถามมากมายจากตัวชี้วัดที่ใครก็ไม่รู้สร้าง อาจเป็นผู้มีอำนาจชี้นำการศึกษาของประเทศได้ หรือใตรที่ฝันอยากให้สถานศึกษาเป็นอย่างนี้อย่างนั้น สรุปว่า QA.ก็คือ "การสื่อสารแบบมีหลักฐานและเป้าหมายในการสื่อสารนั้น" หากคิดอีกแนวทางคือการมีฝ่่ายหนึ่งถามมา แล้วฝ่ายหนึ่งตอบไปว่าทำหรือยัง ทำได้เท่าไหร่ เอาคะแนนไป น้อยกว่าเกณฑ์ก็ตก มากกว่าเกณฑ์ก็ผ่าน ก็เท่านั้น...(อ่านต่อ)

การเข้าถึง

การพัฒนานักศึกษานั้นเป็นเรื่องยาก หากเราขาดความเข้าถึงนักศึกษา การเข้าถึงสามารถทำได้หลายวิธี หลายโอกาส หลายครั้ง แล้วแต่สถานการณ์ นักศึกษาเมื่อพ้นสายตาผู้ปกครองแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมและรู้เรื่องราวที่ซ่อนไว้ อาจารย์นั้นถึงแม้มีหน้าที่สอนเนื้อหาวิชาการด้านวิชาชีพให้พวกเขาแล้ว ยังต้องกล้าที่จะเข้าถึง ต่างจากอยากรู้อยากเห็นเรื่องของนักศึกษามาก ความกล้าและรู้ในสิ่งที่อาจารย์จำเป็นต้องรู้ รู้เพื่อพัฒนาเขา รู้เพื่อเข้าใจเขา การเข้าถึงนั้นทำได้มากมายแต่สำหรับผมแล้วการเข้าถึงส่วนมากจะใช้วิธีถามพวกเขาตรงๆ ซึ่งแน่นอนหากเขาไม่ไว้ใจเราเขาไม่ตอบข้อมูลที่ถูกต้องแน่นอน(ปกปิด) เราควรอ่านใจ ท่าทาง น้ำเสียง พฤติกรรมเขาให้ออก หรือเรียกว่าภาษากาย และภาษาใจให้ได้ แล้วค่อยๆ ศึกษาในส่วนที่เราคิดว่าจะเป็นสำหรับพัฒนาเขาเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นหากเราบังเอิญรู้ ในจรรยาบรรณจำเป็นต้องเก็บความลับหรือเรื่องที่ควรปกปิดนั้น(ต้องไม่ขัดศิลธรรมอันดี)ให้ได้ หากเราเจาะลึกเรื่องราวของเขามากเกินขอบเขตของเรื่องที่ควรรู้จะเรียกว่า "....." ดังนั้นควรต้องมีสติตลอดเวลา ที่สำคัญของจริงใจต่อศิษย์เสมอ ไม่รำเอียง และต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะพูดแนวบวกหรือลบ (ติดตามตอนต่อไป)

การประยุกต์ใช้ประสบการณ์...

ประสบการณ์การเป็นผู้ประเมิน สมศ.อาชีวศึกษา
เป็นครั้งแรกในการเป็นผู้ตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาของ สมศ. ในการตรวจประเมินคุณภาพวิทยาลัยฯ แห่งหนึ่ง รู้สึกว่าการตรวจประเมินแล้วต้องตัดสินใครสักคนว่าผ่านหรือไม่ผ่านมาตรฐานนั้นมันเครียดยิ่งนัก พอๆ กับการชี้เป็นชี้ตายในการตัดสินเกรดนักศึกษาเลยทีเดียว สถานศึกษาก็พยายามทำข้อมูลทั้งจริง และไม่จริง สภาพเป็นจริงและจัดฉากขึ้น เพื่อให้สถาบันของตนนั้นรอดจากการตรวจประเมินให้ได้ทั้งสิ้น ซึ่งผมเองก็เคยรู้สึกแบบนี้หลายๆ ครั้ง
การตรวจประเมินทำให้ผมได้ประสบการณ์มากมาย ทั้งความรู้เรื่องกฎเกณฑ์มาตรฐานของ สมศ. ได้เห็นเพื่ออาจารย์และนักศึกษาต่างสถาบันฯ ว่าเขามีชีวิตการทำงานอย่างไร จริงๆ แล้วในประเทศไทยยังมีวิทยาลัยอาชีวศึกษาดีๆ อีกมากมาย ที่ควรพัฒนาชุดแข็งเรื่องของประสบการณ์วิชาชีพให้เป็นเลิศให้ได้ ไม่ใช่จ้องอยากเป็นมหาวิทยาลัย แต่มหาวิทยาลัยที่มีมากมายในประเทศควรจะสร้างหลักสูตรและสร้างอาจารย์สอนต่อยอดความรู้ของผู้ที่จบอาชีวศึกษาให้ได้ จะเป็นหนทางที่ดีกว่าการจ้องจะเป็นมหาวิทยาลัย จนลืมรากเหง้าความเป็นสถาบันอาชีวศึกษาที่สำคัญ เป็นสถาบันรองรับคนขาดแคลนทุน ขาดแคลนโอกาส อยากได้ความรู้ไปประกอบอาชีพได้จริง ซึ่งต่างจากมหาวิทยาลัยฯ ที่สร้างคนเพื่อเข้าบริหารจัดการ ใช้ทักษะวิชาการ ทฤษฎีมากกว่าวิชาชีพจริง ที่คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ต้องการ