Monthly Archives: December 2013

กิจกรรมทุกสิ่งบนโลกนี้สามารถประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจได้ก็ต่อ เมื่อมีการวางแผนวิธีปฏิบัติงานอันยอดเยี่ยมและดีพร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำธุรกิจ การวางแผนยิ่งจะทวีค่าและมีบทบาทมากยิ่งขึ้น การวางแผนธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญมากเป็น พิเศษ โดยเฉพาะกับการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ คุณทิม เบอร์รี่ (Tim Berry) ประธานบริษัท Palo Alto Software Inc. และเป็นผู้เชี่ยวชาญการวางแผนธุรกิจ ได้แนะนำวิธีการวางแผนที่เรียบง่ายแต่เข้าถึงแก่นแท้ของธุรกิจไว้ 5 ขั้นตอน

 

begin_02

1.การวิเคราะห์ศักยภาพ (SWOT)
เป็นขั้นตอนที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการเป็นอันดับแรกเื่พื่อวิเคราะห์ ข้อมูลเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจที่จะทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจุดเด่น (S = Strengths) จุดด้อย (W = Weaknesses) โอกาส (O = Opportunities) และอุปสรรค (T = Threats) ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลในทั้ง 4 เรื่องจะช่วยให้ผู้ประกอบการทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรายละเอียดของธุรกิจ ที่แท้จริง อันจะนำมากำหนดกรอบและวางแผนทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการวางแผนควรเป็นการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันและระดมสมองตัดสิน ใจเพื่อให้ได้กรอบนโยบายและแผนการที่ดีที่สุดนั่นเอง

2.นำแผนที่ได้ไปลงลึกในรายละเอียดขั้นปฏิบัติ
หลังจากกำหนดแผนธุรกิจจากข้อมูลที่วิเคราะห์แล้ว ขั้นต่อมาก็คือการนำแผนที่ได้มาลงรายละเอียดขั้นปฎิบัติเพื่อนำไปใช้จริง เมื่อปล่อยสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเรื่องการตลาด การแบ่งกลุ่มลูกค้า ราคา การโฆษณา กลยุทธ์ธุรกิจ บรรจุภัณฑ์ ช่องทางการจัดจำหน่าย การส่งสินค้าแบบเร่งด่วน สถานที่จำหน่าย ฯลฯ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ต้องสอดรับกับการวิเคราะห์ศักยภาพตามขั้นตอนแรกเป็น อย่างดีด้วย

3.ออกงานพบปะกับลูกค้าคู่ธุรกิจ
การทำธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนอย่างเช่นในอดีตที่แค่นำ สินค้าออกมาวางขายก็จบ เพราะมีปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวข้องและส่งผลกระทบด้วย โดยเฉพาะเรื่องเครือข่ายธุรกิจ ซึ่งธุรกิจที่เกิดใหม่จะเดินไปข้างหน้าไม่ได้เลยหากขาดเครือข่ายลูกค้าและ คู่ธุรกิจที่จะมารองรับการดำเนินงานในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องมีแผนเดินสายพบปะเครือข่ายเหล่านั้นให้มากยิ่ง ขึ้นเพื่อเชื่อมสัมพันธภาพระหว่างกัน การพบปะพูดคุยกันแต่ละครั้งนั้นควรแสดงออกถึงความจริงใจและพูดคุยในเรื่อง ที่มีจุดยืนร่วมกัน เพื่อตรวจสอบดูว่าใครคือผู้ที่สามารถสนับสนุนและให้การช่วยเหลือได้จริงๆ

4.เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
การจะขายสินค้าหรือบริการให้ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการต้องเข้าใจความคิดความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ว่าสำหรับพวกเขาแล้วสิ่งไหนคือสิ่งที่ใช่หรือไม่ใช่ ขั้นตอนนี้เราต้องลงลึกถึงรายละเอียดปลีกย่อยส่วนบุคคลหรือที่เรียกว่า ไลฟ์สไตล์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน งานอดิเรก อาชีพ อายุ รายได้ การทำงาน โทรทัศน์รายการโปรด เว็บไซต์ที่ชอบ หนังสือที่อ่าน เพลงที่ฟัง ฯลฯ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาเหล่านี้จะช่วยทำให้ผู้ประกอบการเอาชนะใจลูกค้า ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเป็นส่วนที่ทำให้เราเหนือกว่าคู่แข่งอีกด้วย

5.มองภาพรวมไปยังอนาคตที่ดีกว่า
วิสัยทัศน์คือสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนจำเป็นต้องมี ผู้ประกอบการต้องรู้ตัวเองว่าอีก 3 – 4 ปีข้างหน้าธุรกิจจะมีแผนเดินไปในทิศทางใด ซึ่งอนาคตของธุรกิจเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการสามารถสร้างสรรค์และกำหนดขึ้นมา เองได้ไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาแต่อย่างใด ดังนั้นการมีเป้าหมายและวางแผนธุรกิจเพื่อการเติบโตจึงเป็นหนึ่งโครงสร้าง สำคัญของการวางแผนทางธุรกิจ

การวางแผนถือเป็นสิ่งทรงคุณค่ามากในการทำธุรกิจ คืออิสระทางความคิดที่ผู้ประกอบการมีติดตัว ดังนั้นเมื่อมีโอกาสจงวาดฝันและวางแผนธุรกิจให้ดีที่สุด อย่าไปกังวลว่าจินตนาการของเราจะเกินตัวหรือไกลเกินเอื้อม เพราะธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันก็ต่างล้วนมาจากแผนธุรกิจซึ่งสร้าง มาจากความฝันและจินตนาการด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นการเดินตามความฝันด้วยแผนธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคน สมควรต้องทำในยามที่แข่งขันกันสูงอย่างเช่นในปัจจุบันนี้

ขอบคุณข้อมูลดีดี จาก incquity.com

1524691_709547535730236_541108747_n

ขอเรียนเชิญ
ชุมชนนักปฏิบัติ (ชุมชนคนโชติเวช)
เข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อ
เรื่อง “อาเซียน : โอกาสการแข่งขันของไทย
(การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานทางด้านการศึกษาสู่อาเซียน)”
ในวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2556 เวลา 13.30-14.30 น.
ณ ห้องประชุมบัวชมพู อาคารเรือนปัญญา ชั้น 2

งานจัดการความรู้ (KM HEC)

จับตาธุรกิจร้านกาแฟ 7.2 พันล้านฟัดกันเดือด แบรนด์ยักษ์แห่ทุ่มงบผุดสาขาครอบทั่วประเทศ ขณะที่ระดับกลางเร่งปรับภาพลักษณ์ยกระดับจับคนรุ่นใหม่

6667_393125707458655_1901502759_n

 

จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าในปี 2556 ธุรกิจร้านกาแฟที่เป็นเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่จะมีมูลค่าตลาดประมาณ 7.23 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 11% จากปี 2555 ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 6.49 พันล้านบาท โดยพบว่าในปีนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่ อาทิ สตาร์บัคส์ มีการพัฒนาร้านในรูปแบบสแตนด์อะโลน พร้อมให้บริการในแบบไดรฟ์ ทรู เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น ขณะที่ร้านกาแฟดังอย่างอเมซอน ก็พัฒนารูปแบบร้านจากเดิมที่เปิดให้บริการในสถานีบริการน้ำมัน ก็หันไปเปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า ภายใต้ชื่อ “The Amazon’s Embrace” รวมทั้งยังมีเชนร้านกาแฟดังจากอังกฤษอย่าง “คอสต้า คอฟฟี่” ที่เข้ามาเปิดให้บริการในเมืองไทย ส่งผลให้บรรยากาศการแข่งขันในธุรกิจร้านกาแฟกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง

แนวโน้มการแข่งขันของร้านกาแฟในปีหน้า เชื่อว่าจะมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวทั้งในด้านการคิดค้นเมนูที่เป็นสูตรเฉพาะหรือเมนูซิกเนเจอร์ รวมถึงการบริการและคุณภาพของสินค้า