Category: Uncategorized

กิจกรรมทุกสิ่งบนโลกนี้สามารถประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจได้ก็ต่อ เมื่อมีการวางแผนวิธีปฏิบัติงานอันยอดเยี่ยมและดีพร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำธุรกิจ การวางแผนยิ่งจะทวีค่าและมีบทบาทมากยิ่งขึ้น การวางแผนธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญมากเป็น พิเศษ โดยเฉพาะกับการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ คุณทิม เบอร์รี่ (Tim Berry) ประธานบริษัท Palo Alto Software Inc. และเป็นผู้เชี่ยวชาญการวางแผนธุรกิจ ได้แนะนำวิธีการวางแผนที่เรียบง่ายแต่เข้าถึงแก่นแท้ของธุรกิจไว้ 5 ขั้นตอน

 

begin_02

1.การวิเคราะห์ศักยภาพ (SWOT)
เป็นขั้นตอนที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการเป็นอันดับแรกเื่พื่อวิเคราะห์ ข้อมูลเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจที่จะทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจุดเด่น (S = Strengths) จุดด้อย (W = Weaknesses) โอกาส (O = Opportunities) และอุปสรรค (T = Threats) ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลในทั้ง 4 เรื่องจะช่วยให้ผู้ประกอบการทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรายละเอียดของธุรกิจ ที่แท้จริง อันจะนำมากำหนดกรอบและวางแผนทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการวางแผนควรเป็นการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันและระดมสมองตัดสิน ใจเพื่อให้ได้กรอบนโยบายและแผนการที่ดีที่สุดนั่นเอง

2.นำแผนที่ได้ไปลงลึกในรายละเอียดขั้นปฏิบัติ
หลังจากกำหนดแผนธุรกิจจากข้อมูลที่วิเคราะห์แล้ว ขั้นต่อมาก็คือการนำแผนที่ได้มาลงรายละเอียดขั้นปฎิบัติเพื่อนำไปใช้จริง เมื่อปล่อยสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเรื่องการตลาด การแบ่งกลุ่มลูกค้า ราคา การโฆษณา กลยุทธ์ธุรกิจ บรรจุภัณฑ์ ช่องทางการจัดจำหน่าย การส่งสินค้าแบบเร่งด่วน สถานที่จำหน่าย ฯลฯ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ต้องสอดรับกับการวิเคราะห์ศักยภาพตามขั้นตอนแรกเป็น อย่างดีด้วย

3.ออกงานพบปะกับลูกค้าคู่ธุรกิจ
การทำธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนอย่างเช่นในอดีตที่แค่นำ สินค้าออกมาวางขายก็จบ เพราะมีปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวข้องและส่งผลกระทบด้วย โดยเฉพาะเรื่องเครือข่ายธุรกิจ ซึ่งธุรกิจที่เกิดใหม่จะเดินไปข้างหน้าไม่ได้เลยหากขาดเครือข่ายลูกค้าและ คู่ธุรกิจที่จะมารองรับการดำเนินงานในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องมีแผนเดินสายพบปะเครือข่ายเหล่านั้นให้มากยิ่ง ขึ้นเพื่อเชื่อมสัมพันธภาพระหว่างกัน การพบปะพูดคุยกันแต่ละครั้งนั้นควรแสดงออกถึงความจริงใจและพูดคุยในเรื่อง ที่มีจุดยืนร่วมกัน เพื่อตรวจสอบดูว่าใครคือผู้ที่สามารถสนับสนุนและให้การช่วยเหลือได้จริงๆ

4.เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
การจะขายสินค้าหรือบริการให้ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการต้องเข้าใจความคิดความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ว่าสำหรับพวกเขาแล้วสิ่งไหนคือสิ่งที่ใช่หรือไม่ใช่ ขั้นตอนนี้เราต้องลงลึกถึงรายละเอียดปลีกย่อยส่วนบุคคลหรือที่เรียกว่า ไลฟ์สไตล์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลักษณะการใช้ชีวิตประจำวัน งานอดิเรก อาชีพ อายุ รายได้ การทำงาน โทรทัศน์รายการโปรด เว็บไซต์ที่ชอบ หนังสือที่อ่าน เพลงที่ฟัง ฯลฯ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาเหล่านี้จะช่วยทำให้ผู้ประกอบการเอาชนะใจลูกค้า ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเป็นส่วนที่ทำให้เราเหนือกว่าคู่แข่งอีกด้วย

5.มองภาพรวมไปยังอนาคตที่ดีกว่า
วิสัยทัศน์คือสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนจำเป็นต้องมี ผู้ประกอบการต้องรู้ตัวเองว่าอีก 3 – 4 ปีข้างหน้าธุรกิจจะมีแผนเดินไปในทิศทางใด ซึ่งอนาคตของธุรกิจเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการสามารถสร้างสรรค์และกำหนดขึ้นมา เองได้ไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาแต่อย่างใด ดังนั้นการมีเป้าหมายและวางแผนธุรกิจเพื่อการเติบโตจึงเป็นหนึ่งโครงสร้าง สำคัญของการวางแผนทางธุรกิจ

การวางแผนถือเป็นสิ่งทรงคุณค่ามากในการทำธุรกิจ คืออิสระทางความคิดที่ผู้ประกอบการมีติดตัว ดังนั้นเมื่อมีโอกาสจงวาดฝันและวางแผนธุรกิจให้ดีที่สุด อย่าไปกังวลว่าจินตนาการของเราจะเกินตัวหรือไกลเกินเอื้อม เพราะธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันก็ต่างล้วนมาจากแผนธุรกิจซึ่งสร้าง มาจากความฝันและจินตนาการด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นการเดินตามความฝันด้วยแผนธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคน สมควรต้องทำในยามที่แข่งขันกันสูงอย่างเช่นในปัจจุบันนี้

ขอบคุณข้อมูลดีดี จาก incquity.com

121

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ากาแฟ เครื่องดื่มอุดมคาเฟอีนที่หลายคนบอกว่าทำลายสุขภาพนั้น แท้จริงแล้วหากดื่มอย่างถูกวิธีก็สามารถช่วยบำรุงสุขภาพและป้องกันโรคร้ายต่างๆ ได้ วันนี้เรามาเรียนรู้ประโยชน์ 5 ประการจากการดื่มกาแฟดำอย่างน้อยวันละ 2 แก้วกันเถอะ

1. กาแฟอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ คาเฟอีนในกาแฟนั่นเองที่เป็นแหล่งรวมสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็ง แถมยังชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้อีกด้วย
2. กาแฟช่วยในการขับถ่าย มีการศึกษาวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟวันละ 1-2 แก้วจะช่วยในเรื่องการย่อย และช่วยให้การขับถ่ายสะดวกขึ้นได้
3. กาแฟช่วยลดอาการซึมเศร้า จากการทดลองในเด็กชาวบราซิลพบว่าเด็กที่ดื่มกาแฟก่อนไปโรงเรียนจะมีอาการซึมเศร้าน้อยกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ แถมกาแฟยังช่วยกระตุ้นการหลังฮอร์โมนโดพามีนให้ร่างกายคึกคักกระชุ่มกระชวยอีกด้วย
4. กาแฟช่วยป้องกันการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ จากการศึกษาพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำวันละ 2 แก้ว สามารถลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 25%
5. ข่าวดีของสิงห์อมควันและนักดื่มตัวยง เพราะ กาแฟช่วยลดผลกระทบจากการสูบบุหรี่และดื่มสุรา ของคุณได้ ทั้งโรคหัวใจและผลเสียต่อตับ โดยเฉพาะโรคตับนั้น มีการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวันช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคตับแข็งได้ถึง 80% (แต่ถึงจะช่วยยังไง การสูบบุหรี่และดื่มเหล้าก็ไม่ดีต่อสุขภาพของเราอยู่ดีนะคะ)

รู้แบบนี้แล้วก็หา ร้านกาแฟน่านั่ง แล้วออกไปนั่งดื่มกาแฟชิลล์ๆ เพื่อสุขภาพกันดีกว่า

50 เหตุผล ที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่อันดับหนึ่ง

1. พระมหากษัตริย์ทรงพระปรีชาสามารถที่สุด

ถึงแม้ว่าพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงโปรดประทับนอก กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองเสียเป็นส่วนใหญ่ ชาวไทยก็ยังคงเทิดทูนพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นยิ่งกว่าเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนมากว่า 60 ปี พระองค์เสด็จพระราชสมภพ ณ เมืองแคมบริดจ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ทรงเข้ารับการศึกษา ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระองค์ตรัสได้หลายภาษาและทรงมีสิทธิบัตรทางด้านการเกษตรกรรมหลายใบด้วยกัน ทรงมีพระราชอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์ศิลปะด้านดนตรีและการบรรเลงเพลงแจ๊ซ นอกจากนั้นยังทรงต่อเรือใบด้วยพระองค์เอง รวมทั้งทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านการวาดภาพและถ่ายภาพด้วย พระองค์ยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์แรกของโลกที่ทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติยศด้านการพัฒนาของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ และที่สำคัญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชยังทรงเป็น กษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลกอีกด้วย

พระพุทธรูปทองคำที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดไตรมิตร

2. พระพุทธรูปที่มีประวัติน่าทึ่งที่สุด

ใน ปีพ.ศ. 2498 ผู้รับเหมาก่อสร้างทำพระพุทธรูปองค์นึงตกจนทำให้ปูนที่เคลือบองค์พระสมัย สุโขทัยหนัก 5,000 กิโลกรัมกระเทาะออกมาเผยให้เห็นว่าใต้นั้นแท้จริงแล้วเป็นทองคำล้วนๆ แต่มีผู้นำปูนมาเคลือบองค์พระพุทธรูปเอาไว้เพื่อเป็นการตบตาชาวพม่าที่เข้า มารุกรานอาณาจักรไทย

วัดแห่งใหม่มีชื่อว่าวัดไตรมิตรวิทยารามที่เพิ่งได้รับการปฏิสังขรณ์จนแล้วเสร็จเมื่อไม่นานมานี้

เลขที่ 661 ถ. ไตรมิตร ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ ใกล้ๆ สถานีรถไฟหัวลำโพง โทรศัพท์ 02-5099091

3. เมืองของแท้และดั้งเดิมต้องชื่อยาว

ถึง คนไทยจะเรียกว่ากรุงเทพฯ แต่ชื่อเต็มๆ ของกรุงเทพฯ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรีทรงตั้งให้คือ กรุงเทพมหานคร อมรรัตรโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลก ภพนพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์ ถ้าต้องเขียนเต็มๆ มีหวังมือหงิกกันไปข้างหนึ่งล่ะ

4. พระบรมมหาราชวังที่หรูหราที่สุด

บน พื้นที่กว้าง 152 ไร่ของพระบรมมหาราชวังนั้นเต็มไปด้วยฉัตรและกำแพงปิดทองกับภาพวาดอันวิจิตร บรรจง รวมทั้งรูปแกะสลักและรูปหล่อโลหะที่ละเอียดลออ ในสมัยก่อนนั้น พระบรมมหาราชวัง เคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทย แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ ไปแล้ว ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปอย่าลืมเดินชมจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลกเรื่อง รามเกียรติ์บนกำแพงคดรอบอุโบสถให้ได้นะ

5. รถเข็นขายอาหารเปิบพิศดารสารพัดชนิด

นับ วันกิตติศัพท์ของรถเข็นขายอาหารข้างถนนในกรุงเทพฯ ก็ยิ่งแหวกแนวขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้ลิ้นเป็ดย่างกับซุปรังนกถือว่าเอ้าท์ไปแล้ว ถ้าคุุณมีโอกาสได้ไปถนนแพร่งภูธรที่อยู่ไม่ไกลจากเสาชิงช้าและเยาวราชนัก อย่าลืมไปชิมเกาเหลาสมองหมูที่อร่อยเหลือเชื่อดู…ถ้าคุณลืมๆ ไปได้นะว่ามันคือเกาเหลาสมองหมู

6. รีบมาดูก่อนที่จะไม่มีให้ดู

เพราะ กรุงเทพฯ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ราบลุ่มและสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่สูงจากระดับน้ำทะเล เพียง 6 ฟุต ดังนั้นเมืองนี้จึงกำลังค่อยๆ จมลงไปในโคลนปีละ 3 นิ้วตามข้อสันนิษฐานของนักวิทยาศาสตร์ ก็เหมือนสืบ นาคะเสถียรกับเรวัต พุทธินันทน์ไง ถ้าเราไม่อยู่เมื่อไหร่ คุณจะคิดถึงเรา

7. มีนักศึกษาชาวอังกฤษผิวไหม้แดดเต้นรำกลางถนนกับนักธุรกิจสาวชาวแอฟริกันที่ กำลังกรึ่มๆ ได้ที่ให้ชม ในขณะที่คุณกำลังเขมือบแซนด์วิชฟาลาเฟลแกล้มเบียร์ลาว

ถนนข้าวสารที่ มีชื่อ(เสีย)ยังคงครองตำแหน่งเป็นแหล่งนั่งดูคนเพี้ยนทุกเชื้อชาติ อายุ สีผิว อาชีพ ระดับการศึกษา ที่มาพร้อมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ลองไปนั่งเล่นริมฟุตบาทหน้าบัดดี้บาร์ ตีซี้กับขาร็อคชาวกรุงที่แห่กันมานั่งดื่มหลังเลิกงานดูสิ

ร้านขายโปสเตอร์หนังที่เจ๋งที่สุด8. ร้านขายโปสเตอร์หนังที่เจ๋งที่สุดในเอเชีย

ร้าน เล็กๆ แห่งนี้เป็นแหล่งรวมโปสเตอร์หนังน่าสะสมทั้งใหม่และเก่าจากฮอลลีวู้ด ถ้าไม่เห็นคุณสันติเจ้าของร้านดูแลลูกค้านักสะสมจากทั่วเอเชียอยู่หน้าร้าน แล้วล่ะก็ แปลว่าเขากำลังท่องอินเตอร์เน็ตตามล่าโปสเตอร์หนังหายากอยู่ เจ๋งโคตร: โปสเตอร์สตาร์วอร์สภาคภาษาไทยของแท้, อะโพคาลิปส์ นาว, และเดอะ เกรท เอสเคพ

เลขที่ 236/6-7 สยามสแควร์ซ. 2 ถ. พระราม 1(ข้างโรงหนังลิโด้)

9. ย่านโคมแดงที่ไม่รู้จะแดงอะไรนักหนา

พัฒน์ พงศ์ก็มีแต่นักท่องเที่ยว ซอยนานาก็ทั้งใหญ่ทั้งวุ่นวาย แต่ว่าซอยคาวบอยนั้น (บีทีเอสอโศก เอ็มอาร์ทีสุขุมวิท) ใหญ่พอที่คุณจะหาความสำราญได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะพลัดหลงกับเพื่อนๆ แสงไฟจากหลอดนีออนส่องสว่างลอยมาแต่ไกล และการชนแก้วกับหนุ่มๆ ที่นี่ อาจจะทำให้ค่ำคืนนั้นของคุณเป็นคืนที่มีคนจำได้แค่ไม่กี่คนแต่รับรองว่า ไม่มีวันลืมแน่นอน

10. ได้นั่งเล่นกับอาแปะ ดูคนแก่เถียงกัน, จั่วไพ่, สูบบุหรี่, จับนก, สูบบุหรี่, จิบกาแฟ, ขากถุย, แล้วก็สูบบุหรี่

ร้าน กาแฟเอี๊ยะแซบนถนนพาดสายในย่านเยาวราชเปิดกิจการมาแล้ว 60 ปี รสชาติกาแฟก็ไม่ได้กลมกล่อมอะไรหรอก แต่ความเอะอะมะเทิ่งของบรรดาลูกค้าต่างหากที่สามารถให้ความบันเทิงคุณได้ หลายต่อหลายชั่วโมง ลองยกแก้วชนกับอาแปะโต๊ะข้างๆ ดู คุณอาจจะได้ฟังเรื่องเล่าสมัยหนุ่มๆ ตั้งแต่แถวนั้นยังฝุ่นตลบและมีรถรางวิ่งขวั่กไขว่ก็เป็นได้

เลขที่ 42 ถ. พาดสาย, แขวงเยาวราช, เขตสัมพันธวงศ์

ถูกและดีสมชื่อ ราคาไม่แพงและอร่อย อร่อยมาก

11. เคาน์เตอร์ขายอาหารแสนอร่อยที่ไม่เคยปิด

ร้าน อาหารถูกและดีที่อยู่ในฟู้ดแลนด์สาขาสุขุมวิทซอย 5 เหมาะสำหรับการมานั่งทานมื้อเช้า มื้อเที่ยง และมื้อถอนตอนตี 4 เป็นที่สุด ข้าวกระเพราไก่ของเขาจะติดตราตรึงลิ้นคุณไปนานพอๆ กับเพื่อนร่วมเคาน์เตอร์ที่นั่งข้างๆ คุณนั่นเลยทีเดียว

เลขที่ 87 ตึกนายเลิศ ซ. 5 ถ. สุขุมวิท โทรศัพท์ 02-254-2179

12. ตลาดนัดที่มีของขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ

อย่าเพิ่งโม้ว่าตัวเองเป็นนักช้อปตัวยงถ้าคุณยังไม่สามารถเดินซื้อของที่ตลาดนัดจตุจักรได้ แบบเนียนๆ เพราะมันคือเขาวงกตที่เต็มไปด้วยซอกเล็กซอยน้อยบนพื้นที่ 68 ไร่ ที่มีขายทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้ สัตว์เลี้ยงจากทั่วทุกมุมโลก ผลงานศิลปะ หนังสือการ์ตูนเก่า ของเก่า ต้นไม้และเสื้อผ้าจากทุกยุคตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

13. จุดชมพระอาทิตย์ตกดินเหนือมนุษย์ตัวกระจิริด

ภัตตาคารซีร็อคโค่ที่ ตั้งอยู่บนตึกสเตททาวเวอร์สูง 64 ชั้นบนถนนสีลมเปิดให้คุณชมกรุงเทพฯ ได้เกือบ 360 องศา ถ้าช็อคโกแล็ตมาร์ตินี่แก้วละ 400 บาทจากบาร์ที่มีแสงไฟสีพาสเทลเรืองรองยังไม่สะใจล่ะก็ คุณยังสั่งไวน์โรมานีก็องติมาจิบเล่นๆ ได้ในราคาแค่ขวดละ 600,000 บาท แต่สำหรับคนที่กลัวความสูง ขอแนะนำว่าอย่าไปยืนเกาะขอบเป็นดีที่สุด เพราะเลยจากกระจกกั้นสูง 4 ฟุตไปแล้วนั้น คืออากาศธาตุล้วนๆ เลย

ตึกสเตททาวเวอร์ เลขที่ 1055 ถ. สีลม โทรศัพท์ 02-624-9999

14. พริตตี้ที่นี่ขายได้ทุกอย่าง

ตั้งแต่ โปรโมชั่นเบอร์เกอร์คิง ถึงบัตรผ่านประตูงานวัด ยันของแถมในเซเว่นอีเลเว่น บรรดาพริตตี้สาวในชุดรัดติ้วหลากสีจะมายืนประกบให้คุณสนใจของที่เธอเร่ขาย ถ้าคุณ… นี่! สนใจหน่อยสิ ฉันสวยนะ!

อิงลาช พูดภาษาอังกฤษให้เก่งเหมือนเจ้าของภาษา
15. ชื่อธุรกิจที่เห็นแล้วต้องขำกลิ้ง

จริง อยู่ที่ว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นตลาดหลักของภาษาอังกฤษวิบัติ แต่เมืองไทยเราแย่งตำแหน่งเขามาหน้าตาเฉย ตัวอย่างมีให้เห็นตั้งแต่ “แฮร์ซาลูน” จนถึง “อิงลาชโปรแกรม” และอีกหลายชื่อที่เราไม่สามารถพิมพ์ออกอากาศบนเวปไซต์ทั่วไปได้ งานนี้ใครอยากบริหารเหงือกต้องใส่ตาสัปปะรดกันเอาเอง

16. สเต็กที่ทานแล้วกระเป๋าแฟ่บไปหลายวัน

ใครๆ ก็ย่างเนื้อวัวชิ้นนึงได้ แต่ถ้าพูดถึงในเอเชียแล้วมีไม่กี่ร้านที่มีฝีมือเท่าห้องอาหารนิวยอร์ค สเต็กเฮ้าส์ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมเจดับบลิวแมริอ็อทส์ แน่นอนว่าราคาย่อมไม่ธรรมดาเช่นกัน แต่ถ้าได้ชิมซักครั้งรับรองได้ว่าคราวหน้าที่ทานแม็คโดนัลด์ท้องไส้คุณต้อง ปั่นป่วนแน่ๆ

เลขที่ 4 ถ. สุขุมวิท ซ. 2 โทรศัพท์ 02-656-7700

17. กรุงเมกกะของนักช้อปกระเป๋าตุง

ทำไม ชาวต่างชาติถึงต้องถ่อขึ้นเครื่องบินมาซื้อเสื้อเชิ๊ตกุชชี่ของแท้ที่ราคา เท่ากันหรือไม่ก็แพงกว่าบ้านเขาถึงกรุงเทพฯ เราก็ไม่อาจทราบได้ และมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ว่าไฮโซบ้านเมืองนี้ชอบซื้อของแบรนด์เนมกันอยู่แล้ว ถึงแม้ชั้นล่างสุดของศูนย์การค้าสยามพารากอน (บีทีเอสสยาม) จะมีแต่ร้านอาหารและเด็กวัยแตกพาน แต่อีก 4 ชั้นที่เหลือ เต็มไปด้วยสินค้าราคาแพงระยับตั้งแต่รถสปอร์ตลัมบอร์กินี่ไปจนถึงเครื่อง เสียงยี่ห้อแม็คอินทอชเลย

18. พนักงานต้อนรับแสนขยัน(ไปมั้ย)ในห้องน้ำ

คุณ ผู้ชายที่ไปเข้าห้องน้ำในสถานที่เที่ยวกลางคืนอาจจะเหวอได้ เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสแนบแน่นจากมือแข็งแรงคู่นึงบนไหล่ทั้ง 2 ข้าง อย่าเพิ่งหันไปตั้งการ์ดนะ เขาเป็นแค่พนักงานต้อนรับในห้องน้ำที่มีหน้าที่เอาผ้าร้อนมาประคบไหล่แล้ว บีบนวดให้คุณแลกกับทิปเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าคิดว่ารับไม่ได้จริงๆ ก็แค่บอกไปว่า “ไม่เอาครับ ขอบคุณ” ก็พอ

ร้านอาหารตะวันออกกลางที่อร่อยที่สุดในกรุงเทพฯ อยู่ในสุขุมวิทซอย 3/1

19. อาหารตะวันออกกลางอร่อยๆ นอกตะวันออกกลาง

กรุงเทพฯ เป็นเบ้าหลอมขนาดใหญ่ของวัฒนธรรมดิบ และสิ่งที่มากับวัฒนธรรมนั้นก็คืออาหารนั่นเอง ในซอยสุขุมวิท 3/1 (บีทีเอสนานา) มีร้านอาหารตะวันออกกลางที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังตั้งเรียงรายรอคุณอยู่

สาว ชาวมุสลิมกับแฟชั่นนิสต้าชาวไนจีเรียเดินปะปนกับคนขายไฟเลเซอร์และน้ำหอมจาก อาหรับ ขนมปังอุ่นๆ ชิ้นเท่าพวงมาลัยรถที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นจากเตาไม้ เหมาะจะฉีกมาตักทานกับฮัมมัสและทาฮินี่ที่เพิ่งทำสดๆ ที่สุดแล้ว

20. มีวิธีที่คิกขุที่สุดในการสกัดกั้นฮอร์โมนของวัยรุ่น

ลอง ไปเดินเล่นแถวๆ ที่วัยรุ่นชอบไปกันในวันวาเลนไทน์ดู แล้วคุณจะเห็นว่ามีตำรวจเยอะกว่าปกติ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์เพื่อสอดส่องไม่ให้เด็กๆ วัยกลัดมันทำอะไรมากไปกว่าการเดินจูงมือกัน เพราะห้างสรรพสินค้าเตรียมเก้าอี้ไว้ให้พวกเขานั่งจู๋จี๋กันอยู่แล้ว

21. นั่งทานอาหารท่ามกลางวัตถุโบราณที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 20

ค่ำคืน ที่ทูบาในซอยเอกมัยนั้นไม่ต่างจากการไปงานปาร์ตี้ห้องใต้หลังคาบ้านคุณยาย เลย ที่นี่มีทั้งงานกระจกสีโบราณ สัญลักษณ์ของป๊อปคัลเจอร์ในยุค 50 และเฟอร์นิเจอร์รูปร่างแปลกๆ ที่ช่วยแต่งเติมมุมมืดอับแต่ละมุมในร้านให้มีเอกลักษณ์ขึ้นมา ข้อดีของที่นี่ก็คือของทุกอย่างในร้านมีไว้ขาย

เลขที่ 11-12เอ ซ. เอกมัย 21 สุขุมวิท 63 โทรศัพท์ 02-711-5500

จงระวังรถมินิบัสสีเขียวเอาไว้ให้ดี

22. ระบบขนส่งมวลชนที่ราคาถูกและน่าตื่นเต้น

ถึง แม้จะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ข้อดีของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ คือราคาที่ถูกแสนถูก ค่าโดยสารเรือคลองแสนแสบ 8 บาท ค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาและรถเมล์ 16 บาท ค่าแท็กซี่มิเตอร์เริ่มต้นที่ 35 บาท ค่ารถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน 40 บาทตลอดสาย การต่อราคาค่าโดยสารรถตุ๊กๆ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และการต่อรถนั้นก็ซับซ้อนจนทำให้ผู้เข้าแข่งขัน “ดิ อเมซซิ่งเรซ” ต้องยกธงขาวยอมแพ้มาแล้ว

รถมินิบัสร่วมบริการหรือตีนผี ประจำเยาวราชมักจะออกอาละวาดตามหัวโค้งต่างๆ พร้อมกระเป๋ารถที่โหนประตูรถด้วยมือข้างเดียวให้เสียวเล่น แน่นอนว่ามันไม่ใช่การเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด แต่เราเอาหัวเป็นประกันได้ว่าไม่ธรรมดาแน่ๆ

23. ปาร์ตี้ที่ย้อนยุคไปอยู่ในปีพ.ศ. 2532

วงที่เล่นประจำที่ร็อคผับติด กับสถานีบีทีเอสราชเทวี เขาเล่นเพลงคลาสสิคตั้งแต่กันส์แอนโรสเซส, วอร์แรนท์, ออสซี่, และไอรอนเมเด้นได้สะใจโก๋หลังวังจริงๆ ไม่ต้องเขิน…คว้ากางเกงหนังมาใส่ คาดแว่นกันแดดทรงนักบินแล้วเดินชูมือขวาเข้าไปเลย

ตึกฮอลลีวู้ดสตรีท ถ. พญาไท บีทีเอสราชเทวี โทรศัพท์ 02-251-9980

24. เทรนด์ใหม่ล่ามาแรงเกินกว่าสมองจะรับได้

ช่วง วันหยุดตามซอกเล็กซอยน้อยของสยามสแควร์ (บีทีเอสสยาม) จะเต็มไปด้วยวัยรุ่นที่แต่งตัวได้ทันสมัยและแรงจัดเหมือนเพิ่งกระเด็นออกมา จากหนังสือโว้ค เทรนด์ฮิตอาทิตย์นี้ รองเท้าส้นสูงเสียดฟ้า, แว่นตาไร้เลนส์, และผมทรงรังนกที่เห็นแล้วทำให้นึกถึงมาม่าบลูส์ขึ้นมาตะหงิดๆ พวกคุณว่าไง? คันมือคันเท้ามั้ย?

ป้ายหาเสียงของชูวิทย์ถึงลูกถึงคนจริงๆ

25. นักการเมืองที่แรงได้ใจสุดๆ

ไม่มีใครดุดันเท่าชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์เจ้า พ่ออาบอบนวดที่ผันตัวมาเป็นนักการเมืองแล้ว หลังจากโดนอุ้มเขาก็ขู่ว่าจะแฉรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับส่วยจากเขาต่อ หน้านักข่าว ถึงแม้ชูวิทย์จะสอบตกในการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ถึง 2 สมัยติดกัน เขาก็ยังไม่วายทำให้เหล่าผู้ทรงอิทธิพลต้องปาดเหงื่อเมื่อโดนขู่ว่าจะเอาเทป ลับจากกล้องวงจรปิดมาเปิดเผย น่าเสียดายที่เราคงจะไม่ได้เห็นป้ายหาเสียงกับหน้าตาขึงขังของเขาอีกแล้ว

26. สามารถคืนกำไรให้สังคมได้อย่างง่ายๆ

เรา มีองค์กรการกุศลดีๆ อยู่ในกรุงเทพฯ หรือไม่ก็มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ มากมาย แต่ด้วยอุปสรรคทางด้านภาษาและการจัดการที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจึงอาจจะทำให้หา ยากไปซักหน่อย แต่ไม่เป็นไร เพราะว่านักเขียนบล็อกชาวกรุงนาม ดไวท์ เทอร์เนอร์ได้ทำการคัดสรรเอาไว้ให้คุณแล้ว

27. ทานอาหารได้โดยไม่ต้องใช้มือ

ถ้าคุณเกิดขี้เกียจ…ขี้เกียจสุดๆ เลยนะ…สาวๆ มือขยันที่ร้าน “โนแฮนด์ส เรสเตอรองต์” (มีหลายร้านในกรุงเทพฯ) จะมาป้อนอาหารให้คุณเอง คุณจะได้เอามือไปทำอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าได้ อย่างเช่น ยกแก้วเบียร์หรือเล่นเกม PSP ไง

เลขที่ 19 ถ. พระราม 4 สี่พระยา โทรศัพท์ 02-235-5000

28. พบกับอาหารอร่อยๆ ในที่ที่คุณคาดไม่ถึง

ห้างพันธุ์ทิพย์คือ ตึกทรงโรมันโทรมๆ ที่เป็นแหล่งรวมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกชนิด ที่นี่มีศูนย์อาหารที่อร่อยมากอยู่บนชั้น 3 เราขอแนะนำให้ลองชิมข้าวซอยไก่ (ไก่กับบะหมี่ไข่ในน้ำแกงกะทิรสกลมกล่อม) ที่คนขายเป็นป้าแก่หน้าบึ้งๆ นั่นแหละ

เลขที่ 604/3 ถ. เพชรบุรี บีทีเอสชิดลม โทรศัพท์ 02-250-9008

ลีลาการเตะตะกร้อในอุทธยานเบญจสิริ 29. กีฬาที่ผสมผสานกับกายกรรมระดับโลก

ถ้า คุณไม่เคยเห็นคนตีลังกาเตะลูกบอลสาน แปลว่าคุณยังไม่เคยดูตะกร้อ อุทยานเบญจสิริ (บีทีเอสพร้อมพงษ์) ในช่วงบ่ายแก่ๆ เป็นสถานที่ที่เหมาะมากในการนั่งชมลีลาเด็ดๆ ถ้ายังนึกไม่ออก ให้ลองจินตนาการภาพเฉินหลงโดนจับมัดมือไพล่หลังเล่นวอลเลย์บอลดู

30. หน้าพิซซ่าที่ทำเอาชาวอิตาเลี่ยนจุกไปเลย

คน ไทยสรรหาของมาโรยหน้าพิซซ่าได้เก่งมาก นอกจากปกติที่ทานคู่กับซอสมะเขือเทศแล้ว หน้าพิซซ่ายอดนิยมได้แก่ ปลาหมึก, ข้าวโพด, แกงเขียวหวาน, มายองเนส, บร็อคโคลีและน้ำสลัด ก็แปลกใหม่ดีนะสำหรับนักทาน แต่ถ้าคุณชอบแบบดั้งเดิมล่ะก็ ลองแวะไปที่รอนนี่ส์ นิวยอร์ค พิซซ่าในสุขุมวิทซอย 4 ดู พยายามสั่งพิซซ่าหน้าใหม่ๆ ให้เขาอบกันสดๆ แล้วประสาทรับรสของคุณจะตื่นในทันที

31. ตลาดนัดกลางคืนที่แนวที่สุด

ลืมพัฒน์พงษ์กับสวนลุมไนท์ที่มีแต่เจ้าของร้านหน้ามึนเพราะโดนต่อราคาไปเถอะ มาสัมผัสรสชาติการช้อปปิ้งแบบไทยๆ ที่ตลาดรัชดาไนท์ ตรงสถานีเอ็มอาร์ทีลาดพร้าวกันดีกว่า ตลาดแห่งนี้มีขายทั้งเครื่องพิมพ์ดีดเก่า รถเวสป้าแต่งใหม่ เสื้อผ้าฮิปๆ และของแต่งห้องเก๋ๆ ที่วางเรียงรายอยู่เบื้องใต้หลอดไฟกลมเหนือศีรษะให้คุณได้เลือกซื้อ

ถึงเจ้าของร้านโดเรมีจะแก่แต่ป้ารู้เรื่องดนตรีดีกว่าเราๆ เยอะ

32. มีป้านักฟังเพลงที่เท่ห์ที่สุดในโลก

ร้าน ขายซีดีโดเรมีที่ตั้งอยู่มุมในสุดของสยามสแควร์ซอย 11 เป็นของคุณป้าที่มีหัวใจเป็นเสียงเพลง และรู้จักศิลปินทุกคนตั้งแต่ บิลลี่ ฮอลลิเดย์, เดอะแคลช, จนถึงกรีนเดย์ ร้านเล็กๆ ของป้าโดเรมีเต็มไปด้วยแผ่นซีดีเพลงจากทั่วทุกมุมโลก ถ้าคุณอยากฟังอะไรใหม่ๆ ล่ะก็…บอกได้ เดี๋ยวป้าจัดให้

เลขที่ 422/6 สยามสแควร์ซอย 11

33. ทันใจไม่สิ้นเปลือง

มอเตอร์ไซค์ รับจ้างผู้ซื่อสัตย์ในเสื้อกั๊กสีส้มแปร๋นสามารถช่วยงานคุณได้สารพัด ตั้งแต่ส่งของ, จ่ายค่างวด, ส่งจดหมาย, ไปรับเพื่อน, นำทางแท็กซี่ที่พาคุณหลงจนคลำทางกลับบ้านไม่ถูก พวกเขาทำได้แทบทุกอย่างที่คุณต้องการ หลังจากต่อรองราคากันจนเมื่อยมือ ดีตรงไหนน่ะเหรอ…คุณไม่ต้องฝ่ารถติดเองไง

34. เครื่องแบบนักศึกษาที่หดหายไป

ช่วง เดือนกันยายนของทุกปีนักข่าวจะทำข่าวเดิมๆ เกี่ยวกับชุดนักศึกษาหญิงที่หดลงเรื่อยๆ กระโปรงสั้นกุด, เสื้อคับติ้ว นักอนุรักษ์นิยมเขาออกมาด่าปาวๆ ส่วนเราก็คงได้แค่นั่งมองตาถลน แต่จะว่าไปเวลาเห็นนักศึกษาต้องเดินหันข้างขึ้นบันได เพราะถ้าเดินขึ้นตรงๆ จะโป๊แล้วเนี่ย ก็ทำให้รู้สึกว่าเจ๊เบียบเขาก็มีเหตุผลเหมือนกันแฮะ

35. ศูนย์รวมความสบายที่เอื้อมถึง

แม่ บ้าน คอร์สทำเล็บ คอร์สนวดตัว เสื้อผ้าสั่งตัดและคนขับรถ ทั้งหมดนี้คุณสามารถซื้อหาได้ด้วยเงินเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตอนอยู่ ต่างประเทศ ชาวต่างชาติพึงสังวรณ์: เพื่อนคุณไม่อยากได้ยินหรอกนะว่า คุณซักผ้าไม่เป็นหรือลืมวิธีขับรถเกียร์กระปุกไปแล้ว

36. โรงภาพยนตร์ที่สบายที่สุด

เดี๋ยว นี้โรงภาพยนตร์ใหม่ๆ ในกรุงเทพฯ มีที่นั่งสุดหรูให้บริการในราคาเท่าที่นั่งธรรมดาของเมืองนอกเลย เขาจัดมาให้ทั้งเบาะกำมะหยี่ปรับเอนนอนได้ หมอน, ผ้าห่ม แถมยังมีเครื่องดื่มฟรีอีก โรงที่ดีที่สุดในตอนนี้เห็นจะเป็นโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ในศูนย์การค้าสยามพารากอน แต่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าพนักงานของโรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ซีเนม่า ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์นั้นบริการดีกว่า

37. หนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ได้ในพริบตา

ใครๆ ก็รู้ว่าพระประแดงเป็นปอดของกรุงเทพฯ เพราะตั้งอยู่ตรงโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี เทศบาลเมืองพระประแดงจึงกำหนดพระราชบัญญัติขึ้นมาว่า ห้ามสร้างตึกสูงเกิน 3 ชั้น โครงสร้างพื้นฐานของที่นี่จึงโดนสงวนไว้ตั้งแต่ประมาณปีพ.ศ. 2490 ทางเดินฉาบปูนกับป่าชายเลนหนาทึบทั่วบริเวณทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักปั่น จักรยานมาก คุณว่าน่าขนลุกมั้ยล่ะที่ขนาดอยู่ในป่าทึบ แสงไฟจากในเมืองและตึกระฟ้ายังตามมาหลอนได้อยู่เลย

38. ชอบอาหารสดใช่มั้ย เอาไปเลย

ตลาดสด คลองเตยที่แสนวุ่นวาย ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่น, ภาพ, เสียง, และผู้คน รถเข็นสินค้าของสดวิ่งกันขวั่กไขว่ ซึ่งหลายอย่างเพิ่งส่งตรงมาจากไร่ สวนและทะเล เสียงพ่อค้าแม่ขายตะโกนคุยกันเองและคุยกับลูกค้าดังโหวกเหวก นอกจากนั้นตลาดแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์เมอร์ซี่และที่พำนักของหลวงพ่อ โจ บ้านสำหรับเด็กเร่ร่อน เด็กกำพร้า บ้านพักแม่และเด็ก และโรงเรียนสอนเด็กสลัมอีกด้วย

1 ในม้านั่งออกกำลังกายเก๋าๆ ที่สวนลุม

39. วิธีฟิตกล้ามที่สร้างสรรค์ที่สุด

ถึง สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้งในสวนลุมพินี (เอ็มอาร์ทีลุมพินี) จะเต็มไปด้วยอุปกรณ์เก่าสนิมเกาะที่ใครเห็นเป็นต้องอมยิ้ม ก็ไม่ได้ทำให้หนุ่มๆ กล้ามปูที่ตากแดดออกกำลังกายเหงื่อท่วมกระดากอายแต่อย่างใด เพราะกล้ามเนื้อในร่างกายรับรู้แค่ว่า 20 กิโลก็คือ 20 กิโล ถ้าได้ไปอย่าลืมไปทดสอบพละกำลังบนม้านั่งที่ก้อนน้ำหนักเป็นยางรถยนต์ดูซัก เซ็ทนะ

40. ห้ามเดินตอน 8 โมงเช้ากับ 6 โมงเย็น

นัก ท่องเที่ยวทั้งหลายที่เพลิดเพลินจนต้องติดอยู่ข้างนอกตามเวลาดังกล่าว และรู้สึกราวกับตกเข้าไปอยู่ในมิติพิศวงที่ทุกคนหยุดเคลื่อนไหว จงอย่ากลัว เขาแค่ยืนทำความเคารพเพลงชาติที่บรรเลงวันละ 2 ครั้งเท่านั้น ถ้าคุณอยากเดินต่อก็ไม่ผิดกฏหมายหรอก แค่จะโดนมองด้วยสายตาเพชฌฆาตจนแทบจะตายคาที่เท่านั้นเอง

41. ปูผัดผงกะหรี่ที่อร่อยที่สุดในเอเชีย

เมื่อ ก้าวเข้าไปในร้านสมบูรณ์โภชนาสาขาสุรวงศ์ คุณจะได้เห็นปูผัดผงกะหรี่วางเด่นเป็นสง่าอยู่บนทุกโต๊ะ เนื้อปูสดๆ แน่นๆ ผัดคลุกเคล้าซอสผงกะหรี่สูตรเฉพาะที่หอมอร่อยจนเด็กเสิร์ฟแทบไม่ต้องล้างจาน เขาลือกันว่ามีลูกค้าประจำเจ้านึงถึงกับต้องบินมาจากสิงคโปร์เดือนละครั้ง เพื่ออาหารจานนี้โดยเฉพาะ

เลขที่ 169/7-11 ถ. สุรวงศ์ สีลม โทรศัพท์ 02-2333104

รูปปั้นเล็กๆ ทางด้านขวาคือเดวิด เบคแฮม

42. เราบูชาฟุตบอลกัน…เป็นเรื่องเป็นราว

บนถนนพระราม 3 ซอย 30 มีวัดแห่งนึงชื่อวัดปริวาสที่มีเจ้าอาวาสเป็นแฟนบอลตัวยง จนถึงกับสั่งให้ช่างเอารูปปั้นเดวิด เบคแฮมมา ติดไว้ข้างๆ รูปปั้นเทวดารอบพระอุโบสถในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกปีค.ศ. 1998 เลยทีเดียว ถ้าท่านเอารูปปั้นวิคตอเรีย เบคแฮมไปติดบนแท่นบูชาเมื่อไหร่เราจะรีบมาแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม

43. พิพิธภัณฑ์สยองเกล้า

แน่ใจเหรอว่าคุณเห็นมาหมดแล้ว พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ที่ โรงพยาบาลศิริราชนั้น เต็มไปด้วยของน่าขนลุกขนพองที่คุณอาจจะเคยได้ยิน แต่ไม่ค่อยมีใครเคยเห็นอยู่เต็มไปหมด ห้ามพลาด: ถุงอัณฑะขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 นิ้วของคนไข้โรคเท้าช้าง, ศพซีอุยฆาตกรกินตับเด็ก, เหยื่อโดนยิง, โดนรถชนและเหยื่อที่เสียชีวิตจากการใช้เครื่องจักร เราขอเตือนด้วยความปรารถนาดีว่าแฟนๆ ดิสนีย์แลนด์ไม่ควรมา

เลขที่ 2 ถ. พรานนก ศิริราช บางกอกน้อย โทรศัพท์ 02-419-7000

44. เสื้อยืดที่เห็นแล้วต้องมองจนเหลียวหลัง

มี ตั้งแต่สโลแกนเด็ดๆ, คำด่าแรงๆ ไปจนถึงคำคล้องจองที่ยิ่งอ่านยิ่งงงบนเสื้อยืดเท่ห์ๆ ทุกแบบทุกทรง หลายตัวอาจจะดูปัญญาอ่อนและไร้สาระ แต่นานๆ ทีคุณอาจจะไปเจอซักตัวที่เข้าท่า(น่าตบ) ก็ได้นะ

45. พระสงฆ์ที่ไหนทันสมัยที่สุด

หลาย คนคิดว่าพระสงฆ์คงเอาแต่สวดมนต์นั่งสมาธิทั้งวัน แต่พระเมืองไทยก้าวหน้ากว่านั้นเยอะ ถึงแม้ว่าท่านจะครองตนอยู่ในศีลในธรรม แต่คุณอาจจะได้เห็นบุรุษในผ้าเหลืองนั่งรถไฟใต้ดินเข้าเมือง เล่นไอโฟน หรือไม่ก็อัพเดทบล็อคตามร้านอินเตอร์เน็ทเหมือนกันนะ

46. ตำรวจไทยนั้นแท้จริงแล้วคือลูกเสือ

“จง เตรียมพร้อม” เป็นคติพจน์ของลูกเสือสามัญที่ใครๆ ก็ทราบ และตำรวจกรุงเทพฯ จำกันขึ้นใจ เดี๋ยวเราจะยกตัวอย่างให้ดู…ด้วยความที่เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องรถติดเป็น อันดับต้นๆ ของโลก ทำให้การนั่งอยู่ในรถติดๆ ตอน…ตอนคลอดลูกแล้วกัน กลายเป็นเรื่องเลวร้ายไม่ใช่น้อย ลูกเสือ เอ๊ย! ตำรวจในกรุงเทพฯ จึงต้องพกกรรไกรเอาไว้ตัดสายสะดือทารก และการคลอดลูกบนเบาะหลังรถนั้น เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คุณคิดอีก

47. ความเจ็บปวดที่น่าหลงใหลที่สุดในโลก

กิตติศัพท์ ของการนวดแผนไทยนั้นเลื่องลือไกลไปทั่วโลก ถึงแม้จะเจ็บจนน้ำตาเล็ดแต่รับรองได้ว่าพอกลับถึงห้องคุณจะหลับเป็นตาย และตื่นมาพร้อมกับความกระฉับกระเฉง ที่เฮล์ทแลนด์ส ปาชื่อดัง มีบริการนวดหลายขนานให้คุณได้ลอง ตั้งแต่นวดเท้าไปจนถึงนวดตัวด้วยน้ำมันเป็นเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากนวดเสร็จกล้ามเนื้อคุณจะถึงกับอึ้งทึ่งเสียวไปเลย

ตัวเงินตัวทองในสวนลุมไม่เป็นอันตราย มั้งนะ

48. เฮ้ย! ไดโนเสาร์!!!

อาจ จะไม่ถึงกับเหมือนในหนังเรื่องจูราสสิคพาร์ค แต่สวนลุมพินีหรือเซ็นทรัลพาร์คของคนกรุงเทพฯ นั้นมีสัตว์เลื้อยคลานตัวเขื่อง ที่คุณเห็นแล้วอาจจะถึงกับปัสสาวะเล็ดกันเลยทีเดียว ตัวเงินตัวทองที่โตเต็มที่นั้นยาว 2.7 เมตร ปกติเจ้าถิ่นจะชอบออกมาลุยโคลนและเดินทอดน่องริมน้ำ แต่บางทีก็อาจจะมีการเดินตัดหน้าข้ามมาลงในบึงใกล้ๆ บ้างเหมือนกัน แต่ว่าไม่ต้องกลัวหรอก เพราะส่วนใหญ่ก็ยาวแค่ 3 ฟุตเอง ส่วนใหญ่นะ…

49. เปิดกว้างสำหรับคนทุกเพศ

วิถี ทางเพศของชาวกรุงเทพฯ นั้นเรียกได้ว่ายืด…ได้เหมือนหนังสติ๊ก “อ๋อ มันเป็นเกย์ไปแล้ว” คือคำตอบที่ได้ยินกันบ่อยๆ เวลาถามถึงแฟนเก่า แต่ที่น่าทึ่งก็คือไม่มีใครสนใจ คนมีชื่อเสียงในบ้านเมืองหลายคนมีทั้งที่เป็นเกย์เต็มตัว, เป็นไบแล้วก็มีทั้งแต่งหญิง จะเกย์, ไม่เกย์, จะเป็นกะเทยแอ๊บแมนหรือกะเทยแต๋วแตก คนไทยคิดว่าใครจะเป็นเพศไหนมันก็เรื่องของเขา

50. สามารถกำหนดสีให้กับ…ทุกอย่าง

สี ช่วยกำหนดและแยกแยะทุกอย่างในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ความคิด โซน จนถึงขั้วการเมือง ที่จริงมีสีประจำวันด้วยนะ วันศุกร์คนจะชอบใส่สีฟ้า วันอังคารสีชมพู วันจันทร์สีเหลือง วันดีคืนดีสีต่างๆ ก็เข้ามามีบทบาททางการเมือง พอประชาชนขัดแย้งกันมากๆ เข้า แต่ละกลุ่ม แต่ละสีก็จะนัดหมายรวมตัวมาประท้วงกัน หลังจากเกิดเหตุวุ่นวายทางการเมืองในกรุงเทพฯ ก็มีคนแซวว่า น่าจะเปลี่ยนคำทักทายจาก “ทานข้าวรึยัง” เป็น “คุณอยู่สีอะไร” ไปเลยดีกว่า

การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Sustainable Tourism)

867-large-03-26

บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา (2542) ได้ให้ความหมายการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Sustainable Tourism) ว่าหมายถึงการท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่หรือกลุ่มเล็กที่มีการจัดการอย่างดีเยี่ยม เพราะสามารถดำรงไว้ซึ่งทรัพยากรท่องเที่ยวให้มีความดึงดูดใจอย่างไม่เสื่อมคลาย และธุรกิจท่องเที่ยวมีการปรับปรุง คุณภาพให้ได้ผลกำไรอย่างเป็นธรรม โดยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือนสม่ำเสมออย่างเพียงพอ แต่มีผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดอย่างยืนยาว

1. ลักษณะการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน มีลักษณะสำคัญอยู่ 6 ประการดังนี้ คือ

1.1 เป็นการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวทุกประเภท ทุกแห่ง

1.2 เป็นการท่องเที่ยวที่เน้นคุณค่าและความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแหล่งท่องเที่ยว

1.3 เป็นการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อทรัพยากรการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม

1.4 เป็นการท่องเที่ยวที่ให้นักท่องเที่ยวได้รับความรู้และประสบการณ์เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและวัฒนธรรม

1.5 เป็นการท่องเที่ยวที่ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวอย่างยืนยาว

1.6 เป็นการท่องเที่ยวที่ให้ผลประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่น และคืนผลประโยชน์กลับสู่ทรัพยากรท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่น

2. หลักการการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน มีหลักการดังนี้ (อุษาวดี พูลพิพัฒน์, 2545)

2.1 การอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรอย่างพอดี (Using Resource Sustainable ) ทั้งในส่วนที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติ สังคม และวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญและเน้นการทำธุรกิจในระยะยาว

2.2 การลดการบริโภคที่เกินความจำเป็นและการลดของเสีย (Reducing Over-consumption and Waste) จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำนุบำรุงสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายในระยะยาว และเป็นการเพิ่มคุณภาพของการท่องเที่ยวด้วย

2.3 การรักษาและส่งเสริมความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติ (Maintaining Diversity ) สังคม และวัฒนธรรม จะช่วยขยายฐานของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอนาคต

2.4 การประสานการพัฒนาการท่องเที่ยว (Integrating Tourism into Planning) เข้ากับกรอบแผนกลยุทธ์การพัฒนาแห่งชาติ การพัฒนาท้องถิ่น และการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะช่วยขยายศักยภาพการท่องเที่ยว

2.5 การท่องเที่ยวที่รองรับกิจกรรมในท้องถิ่น (Supporting Local Economic) โดยคำนึงถึงราคาและพัฒนาคุณค่าของสิ่งแวดล้อมไว้ ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการประหยัด แต่ยังป้องกันสิ่งแวดล้อมไม่ให้ถูกทำลายอีกด้วย

2.6 เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น (Involving Local Communities) ในด้านการจัดการผลตอบแทนของประชาชน และสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและการจัดการการท่องเที่ยว

2.7 การประสานความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ ประชาชนท้องถิ่น องค์กรและสถาบันที่เกี่ยวข้อง (Consulting Stakeholders and the Public) เพื่อลดข้อขัดแย้งและร่วมแก้ปัญหา

2.8 เป็นการฝึกอบรมบุคลากร (Training Staff ) โดยสอดแทรกแนวคิดและวิธีปฏิบัติในการพัฒนาแบบยั่งยืนแก่บุคลากรท้องถิ่นทุกๆระดับ เพื่อยกระดับการบริการการท่องเที่ยว

2.9 ข้อมูลข่าวสารที่สื่อให้กับนักท่องเที่ยว โดยมุ่งสร้างความเข้าใจในการเคารพต่อธรรมชาติ สังคม และวัฒนธรรมที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว (Marketing Tourism Responsibly) อีกทั้งเป็นการช่วยยกระดับความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง

2.10 การวิจัยและติดตามผล (Undertaking Research) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ไขที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

3. ลักษณะของการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้ (อุษาวดี พูลพิพัฒน์ผล, 2545)

3.1 เป็นการท่องเที่ยวที่มีความต่อเนื่อง (Continuity) หมายถึง ความต่อเนื่องของทรัพยากรธรรมชาติ และความต่อเนื่องของวัฒนธรรมซึ่งจัดเป็นทรัพยากรหลักในการท่องเที่ยว และสามารถมอบประสบการณ์นันทนาการที่ดีให้แก่นักท่องเที่ยว

3.2 เป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ (Quality) หมายถึงการเน้นคุณภาพของสามส่วนหลัก คือ คุณภาพของสิ่งแวดล้อม คุณภาพของประสบการณ์ นันทนาการที่นักท่องเที่ยวได้รับ และคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน

3.3 เป็นการท่องเที่ยวที่มีความสมดุล (Balance) หมายถึงความสมดุลระหว่างความต้องการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ความต้องการของชุมชนท้องถิ่นและขีดความสามารถของทรัพยากร