สามก๊ก : ก๊กโจโฉ

ดิฉันมีเรื่อง ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการของโจโฉในสามก๊ก มาเล่าให้ฟังค่ะ   โจโฉ เป็นหัวหน้าวุยก๊ก เป็นคนเก่ง และมีความสามารถสูงมาก เปรียบกับผู้บริหารที่ดี ก็คือ รู้จักเลือกใช้คนอื่นทำงานแทนตัว ผู้บริหารไม่จำเป็นต้องทำได้หรือรู้ในทุกเรื่อง แต่ต้องรู้จักเลือกคนที่มีความเหมาะสม คุณสมบัติในข้อนี้โจโฉมีเกินร้อยค่ะ  เป็นยิ่งกว่ามืออาชีพ  

ในคราวหนึ่ง พวกขุนนางดีๆ รวมตัวกัน จะหาทางฆ่า ตั๋งโต๊ะ ตอนนั้น โจโฉ ก็รวบรวมพล จัดตั้งกองทัพปฏิวัติขึ้น ก็แต่งตั้ง แม่ทัพสูงสุด ชื่ออ้วนเสี้ยว ก็มีคนมาสมัครมากมาย ในจำนวนนั้นก็มี เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ที่รวบรวมคนมาได้จำนวนนึง  ทั้งสามอาสาเข้ามาด้วย เรียกได้ว่า เป็นที่สะดุดตาคนเลยล่ะค่ะ ซักประวัติกันดู ก็รู้ ว่า หนึ่งในสามนั้น แซ่เล่า เป็นราชนิกูลตกยาก หน้าขาว คือ เล่าปี่  อีกคน หน้าแดงเหมือนพุทราสุก หนวดกับคิ้วสวยเหมือนเส้นไหม ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ถือง้าวอันใหญ่มากคือ กวนอู  อีกคนหน้าดำปิ๊ด คางใหญ่เหมือนขากรรไกรเสือ ท่าทางทางบ้าดีเดือด ตาขวางเหมือนคนชอบหาเรื่องทะเลาะอยู่ตลอดเวลา อาวุธก็แปลกเหมือนกัน เป็นทวนยาว ยาวกว่าทวนที่คนอื่นๆใช้กัน ตรงปลายเป็นรูปงู คดๆเลี้อยๆคือ เตียวหุย   ทั้งสามคนนี่ พออ้วนเสี้ยว  เห็นแต่แรกก็ดันไปนึกดูแคลน ส่วนคนอื่นๆในกองทัพก็คิดแบบเดียวกัน ยกเว้นแต่โจโฉ ผู้นำที่เป็นนักอ่านคนตัวยงคนนี้

ในออกรบกันครั้งแรก  ทหารเอกของ กองทัพปฏิวัติโจโฉมีทั้งหมด 17 กอง ตายหมด โดนฮัวหยง องครักษ์ของลิโป้ ตัดหัวในสนามรบตายเรียบโดยที่รบกันยังไม่ถึง 3 เพลงด้วยซ้ำไป เล่นเอา คนที่เหลือ กลัวกันหัวหดไม่กล้าออกรบอีก เลยจัดประชุมขึ้น ใครๆก็ไม่กล้า กวนอูก็เลยอาสาเอง แต่อ้วนเสี้ยวกลับสั่งเฆี่ยนซะนี่ โทษฐานที่เป็นทหารเลว ไร้ฝีมือในการรบ แล้วดันอาสา  โจโฉเห็นแบบนั้น เลยออกมาคัดค้าน ขอให้คิดใหม่ น่าจะให้กวนอูลองออกรบดู เพราะถ้าทำไม่ได้ ยังไงๆ กวนอูก็ต้องตายอยู่ดี แต่อ้วนเสี้ยวก็ยังยืนกรานต่อ โจโฉต้องเลยขอ มติที่ประชุม ชนะไป (เห็นมั้ยคะ ความเป็นผู้นำที่ดีของโจโฉ ถึงแม้ ตัวเองจะเป็นนายใหญ่ แต่ในกองทัพ อ้วนเสี้ยวเป็นใหญ่ วิธีการค้านถ้าโจโฉจะสั่งคำเดียวก็ทำได้ เรียกว่าไม่ก้าวก่ายหน้าที่ ผู้ใต้บังคับบัญชา) แต่งานนี้ ใช้มติที่ประชุมแทน ฉลาดยอดคนจริงๆ อ้วนเสี้ยวมีเสียงเดียว ก็เลยแพ้ไป

จากนั้น โจโฉ แสดงน้ำใจต่อผู้กล้าหาญโดยการรินเหล้าให้กวนอู แต่ กวนอูบอก ยังไม่รับ เพราะตัวเองต่ำต้อยเป็นทหารเลว ไร้ฝีมือ แล้วเดี๋ยวคนจะว่า ตัวเองรบได้เพราะเมา ว่าแล้วก็เดินออกไปนอกค่าย คนอื่นๆ ก็ พากันตามออกไปดู เดินไปยังไม่ทันถึงประตู กวนอูก็เดินสวนกลับมา พร้อมกับหัวของฮัวหยง  กลับมาถึงก็รับเหล้าจอกเดิมนั้นดื่มในขณะที่เหล้าที่โจโฉรินไว้แต่แรกนั้นยังอุ่นอยู่ ท่านผู้ฟังค่ะลองวิเคราะห์ดูนะค่ะ ประเทศจีนในยุคนั้นอากาศค่อนข้างเย็น เนื่องจากเป็นช่วงฤดูใบไม่ร่วง เพราะการยกทัพต่อสู้มักทำกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะเป็นช่วงที่ผ่านการเก็บเกี่ยวพืชผลทางเกษตรกรรมเรียบร้อยแล้ว หากชนะก็จะได้เสบียงของเชลยกลับมาด้วย อีกทั้งม้าศึกก็มีความพร้อมทางร่ายกายและกำลังวังชา เพราะสัตว์เหล่านั้นเตรียมกินอาหารสะสมไว้ตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมาแล้ว งานนี้กวนอูไม่ได้รับ รางวัล หรือความชอบอะไรเลยค่ะ เพราะ อ้วนเสี้ยวแกงอน บอก ถ้าจะให้รางวัลกวนอู  แกจะถอนกองทหารของเค้าออก ไม่ร่วมด้วย  

ท่านผู้ฟังค่ะ โจโฉ ฉลาดค่ะ เอา หมู ไก่ เหล้า ไปให้ สามพี่น้อง เป็นการส่วนตัวถึงที่แทน งานนี้ทำให้ โจโฉ ซื้อใจกวนอูได้หมด

ใจเลยค่ะ

เห็นไหมค่ะ นอกจากการ รู้จักดูคน เลือกใช้คนเป็นแล้ว โจโฉ ยัง รู้จักการ บำรุงขวัญผู้ใต้บังคับบัญชาหรือทหารให้ภักดี ที่สำคัญ เป็นผู้นำที่ไม่ถือตัว เรียกได้ว่า เป็นเสน่ห์ของคนเป็นนาย ที่รู้จัก

ให้เกียรติผู้น้อยนั่นเองค่ะ

Comments are closed.