สามก๊ก : ก๊กเล่าปี่

ดิฉันมีเรื่อง ศาสตร์และศิลป์ของการบริหารจัดการในสามก๊ก มาเล่าให้ฟังค่ะ   สามก๊กเป็นวรรณกรรมอมตะของจีนที่ทั่วโลกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี สามก๊กเป็นการอิงชัยภูมิแผ่นดินจีนสมัยปลายแผ่นดินฮั่น ซึ่งแบ่งแผ่นออกเป็น สามส่วนคือ  ก๊กโจโฉหรือเรียกว่า วุยก๊ก   ก๊กซุนกวนเรียกว่า ง่อก๊ก  และก๊กเล่าปี่ เรียกว่า จ๊กก๊ก  ใครก็ตามที่ได้อ่านและศึกษาวรรณกรรมเล่มนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นสุดยอดของวรรณกรรม ที่นำเรื่องการบริหารมาถ่ายทอดผ่านฉากการทำสงครามในประวัติศาสตร์ได้อย่างลึกซึ้ง โดยผู้อ่านแต่ละคนจะสามารถดึงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในวรรณกรรม ออกมาใช้ประโยชน์ได้มากน้อยเพียงไร ซึ่งเราสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับองค์กรในทุกยุดสมัย โดยอาศัยหลากแง่มุมของพงศาวดารจีนเรื่องนี้ มาใช้ในการบริหารจัดการ

เล่าปี่และขงเบ้ง เป็นตัวเอกของเรื่องสามก๊ก เล่าปี่นั้นเมื่อเด็กชื่อ เหี้ยนเต็ก ไม่สู้รักเรียนหนังสือ ชอบทางบู้มากกว่าบุ๋น  แต่เป็นคนมีปัญญา น้ำใจนั้นดี  ฉลาดและมีคุณธรรม ครั้นมีความโกรธหรือความยินดีก็ตามที มิได้ปรากฏออกมาภายนอก ด้วยความ เป็นคนสุขุม รู้จักควบคุมอารมณ์ จิตใจนั้นเอื้ออารี มีเพื่อนฝูงมาก ใจกว้างขวาง  เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี หรือที่เรียกว่า human relation skills สูง  หมายจะเป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง เป็นผู้ก่อตั้งจ๊กก๊ก 

 ส่วนขงเบ้ง  ผู้ที่แสดงให้คนเห็นว่า ปัญญาคืออาวุธ ที่เหนือกว่าอาวุธใดๆ ที่สำคัญ เราไม่ต้องมาแบกปัญญาให้หนักกาย ดังนั้น เราจึงเห็นได้ว่า ขงเบ้ง จะออกรบด้วยพัดเพียงเล่มเดียวเท่านั้น  ขณะอายุเพียง 28 ปีก็ได้พบกับเล่าปี่  เมื่อเล่าปี่อายุ 48 ปี ทั้งสองอายุห่างกันราวพ่อกับลูก แต่กษัตริย์เล่าปี่ กลับกล้าที่จะมอบกำลังทหารทั้งหมด ที่เค้ามีอยู่ในขณะนั้น  ให้ขงเบ้งบริหาร ทำให้ขงเบ้งยกย่องเล่าปี่  ท่านผู้ฟังค่ะลองคิดดูซิค่ะว่า มีเจ้าของธุรกิจคนไหนบ้างที่กล้ายกธุรกิจทั้งหมดของตัวเอง ให้เด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวลูกจัดการทั้งหมด ซึ่งกลวิธีการบริหารจัดการของเล่าปี่ก็คือ ดูแลได้แต่ไม่ไปก้าวก่าย พยายามรักษามารยาท ให้ผู้อื่นอยากทำงานด้วยไปนานๆ  ซึ่งการบริหารของเล่าปี่เป็นการให้เกียรติและให้อำนาจเป็นอย่างมากแก่ขงเบ้ง ประกอบกับขงเบ้งก็เป็น CEO มืออาชีพที่เพียบพร้อมทั้งสติปัญญาและจริยธรรม เทคนิคการบริหารคนชั้นยอดของเล่าปี่ก็คือ ขงเบ้งที่ถือว่าฉลาดกว่าเล่าปี่มาก ไฉนจึงยอมรับใช้เล่าปี่  แม้เล่าปี่ตาย ยังยอมรับใช้ลูกเล่าปี่จนกระทั้งตัวตาย  ขงเบ้งยามออกศึก จะบัญชาการการรบ บนรถเลื่อน โดยมีหมวกและพัดขนห่านเป็นของประจำตัว ขงเบ้งเป็นผู้รอบรู้สรรพวิชาอย่างถ่องแท้ มองจิตใจคนทะลุปรุโปร่ง ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้แม่นยำ จึงสามารถล่วงรู้ได้ถึงสภาพดินฟ้าอากาศ ผู้คนจึงกล่าวขานว่า เป็นผู้หยั่งรู้ดินฟ้า เป็นคนที่มีสติปัญญา สามารถคาดเดาสิ่งต่างๆล่วงหน้าได้ เหมือนมีญาณวิเศษ เทียบกับปัจจุบันก็เรียกได้ว่าวิสัยทัศน์ หรือ VISION กว้างไกล และแม่นยำเหนือคนธรรมดา

เล่าปี่นั้น ด้วยความที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีมาก จนบางครั้งก็ถูกเรียกว่า เป็นผู้พนมมือได้ทั้งสิบทิศ  เป็นตัวละครที่ไม่ใช่ฮีโร่นักรบที่เก่งกล้าเมื่อเทียบกับกวนอูและเตียวหุย ที่เป็นน้องร่วมสาบาน ไม่ปราญเปรื่องหยั่งรู้ฟ้าดินเหมือนขงเบ้ง แต่เล่าปี่มีจุดเด่นที่สามารถทำให้คนเก่งระดับตำนานหลายๆคน มาทำงานให้อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์ภักดี ไม่แปรพักตร์แม้ถูกเกลี้ยกล่อมซื้อตัวด้วยลาภสักการะที่เย้ายวน จุดแข็งที่สำคัญประการหนึ่งของเล่าปี่ คือ การให้ความเคารพ ให้เกียรติผู้อื่นอย่างเสมอต้นเสมอปลายเป็นธรรมชาติของตัวเอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ได้คนเก่ง คนดี มาร่วมงานด้วย

Comments are closed.