ทำอย่างไร จะเป็นผู้นำระดับ Superstar

ท่านผู้อ่านคะ  ท่าน รศ.ดร. ศิริยุพา รุ่งเริงสุข จาก สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวไว้ว่าไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ว่าจะต้องเป็นคุณสมบัติอะไรบ้าง เพราะ Leadership Differentiators คือ คุณสมบัติเฉพาะตัวของผู้นำคนหนึ่ง  แค่เป็นผู้นำธรรมดาๆ ในองค์กร ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ คน จะให้เป็นผู้นำขั้นเทพหรือขั้น เซเลบที่มีอันดับติดชาร์ทของ BusinessWeek หรือนิตยสาร Fortune อย่าง Steve Jobs หรือ Lou Gestner อย่างนี้ ก็ต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย เพราะก่อนจะก้าวเป็นขั้นเทพก็ต้องผ่านการฝึกวิทยายุทธระดับขั้นธรรมดาก่อน

ตามความเห็นของ Dave Ulrich และ Norm Smallwood ผู้แต่งหนังสือเรื่อง Leadership Brand ทั้งสองได้แจกแจงไว้ชัดเจนว่า กลุ่มคุณสมบัติของผู้นำระดับธรรมดากับผู้นำระดับซูเปอร์สตาร์นั้นต่างกันอย่างไร ทั้งนี้ก่อนจะเป็นผู้นำระดับซูเปอร์สตาร์นั้น ผู้นำทั่วๆ ไปควรมีคุณสมบัติที่ Ulrich และ Smallwood เรียกว่า “DNA” หรือ “Leadership Code” ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

1. ผู้นำต้องมีความพร้อมและความชำนาญเฉพาะตัว (Personal Proficiency) ก็คือต้องเริ่มจากการพัฒนาตัวเองให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ผู้นำต้องดูแลสุขภาพของตนเองให้มีพลานามัยดีเสมอ มีอารมณ์คงเส้นคงวาไม่ใช่ว่ามู้ดสวิงง่ายๆ มีสัมพันธภาพและมีเครือข่ายทางสังคมที่ดี มีความสนใจใคร่เรียนรู้ข่าวสารข้อมูลใหม่ๆ เสมอๆ และมีศีลธรรมมีจริยธรรมประจำใจ

2. ผู้นำต้องเป็นนักวางกลยุทธ์ (Strategist) การเป็นนักวางกลยุทธ์ที่ดี เกิดจากการตรวจสอบข้อมูลเพื่อประเมินสถานการณ์สิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อมองหาประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับธุรกิจ และเพื่อกำหนดเป้าธุรกิจได้ชัดเจน จากนั้นก็เริ่มวางกลยุทธ์และ โรดแมพเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีขั้นตอน

3. ผู้นำต้องเป็นนักปฏิบัติ (Executor) เพื่อให้การปฏิบัติได้รับการยอมรับ และสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน ผู้นำต้องสามารถชี้ให้เห็นว่าผลลัพธ์หรือรางวัลที่จะได้รับจากการปฏิบัติงานชิ้นใดๆ คืออะไร เพื่อที่ผู้ร่วมงานจะมีแรงจูงใจในการทำงาน ผู้นำต้องมีความสามารถและระบบขั้นตอนในการตัดสินใจที่ดี มีการสร้างทีมทำงาน และประเมินตรวจสอบความสามารถของทีม มีหลักการในการบริหารการเปลี่ยนแปลง มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานที่ให้คนตรวจสอบได้ และสร้างความมั่นใจแก่ทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการทำงาน สร้างระบบในการเรียนรู้ที่ดีในองค์กร

4. ผู้นำต้องเป็นนักพัฒนาต้นทุนมนุษย์ (Human Capital Developer) คงยากที่ผู้นำจะทำงานได้สำเร็จและได้รับการยอมรับจากพนักงาน หากว่าเขาไม่มีความสามารถในการบริหารคน จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำต้องมีความสามารถในการวางแผนกำลังคน สามารถกำหนดแนวทางพัฒนาทางสายอาชีพให้พนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวทางพัฒนาธุรกิจขององค์กร และรู้จักกระจายมอบหมายอำนาจให้พนักงานสามารถคิด ตัดสินใจและลงมือปฏิบัติการด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม

5. ผู้นำต้องเป็นผู้จัดการพนักงานที่มีความสามารถสูงที่ดี (Talent Manager) ถึงแม้ผู้นำจะไม่ได้ทำงานด้าน HR โดยตรงแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาต้องมีความรู้ความเข้าใจพนักงานที่มีความสามารถสูง (Talent Management) ผู้นำต้องทราบว่าด้านการจัดการองค์กรต้องการพนักงานระดับ Talent ที่มีคุณสมบัติและความสามารถอะไร ต้องสามารถกำหนดนโยบายในการดึงดูดให้ Talent อยากมาทำงานกับองค์กร ต้องสร้างวัฒนธรรมค่านิยมที่เอื้อให้ Talent อยากทำงานกับองค์กร และผู้นำก็ต้องเป็นนักสื่อสารที่สามารถถ่ายทอดนโยบาย และจูงใจพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติ 5 ข้อที่กล่าวมาทั้งหมดคือ DNA ที่ผู้นำองค์กรระดับธรรมดาๆ ทั่วไปพึงมีเป็นพื้นฐานที่จะนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ และสำหรับผู้นำระดับซูเปอร์สตาร์ที่กลายเป็นตำนานอย่าง Jack Welch, Warren Buffett หรือ Oprah Winfrey คุณสมบัติที่พวกเขามีที่สร้างแบรนด์ความเป็นผู้นำที่โดดเด่นแตกต่างนั้น  Ulrich และ Smallwood เรียกคุณสมบัติที่สร้างความแตกต่างนี่ว่า Leadership Differentiatorsซึ่งไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่าจะต้องเป็นคุณสมบัติอะไรบ้าง เพราะ Leadership Differentiators คือ คุณสมบัติเฉพาะตัวของผู้นำคนหนึ่ง เช่น มีความสามารถทางการเงินอย่างยอดเยี่ยม เช่น Warren Buffet มีความสามารถด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างยอดเยี่ยม เช่น Bill Gates มีความสามารถในการสื่อสารที่ประทับใจคน     อย่างท่านมหาตมะคานธี เป็นผู้ที่เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อความสุขส่วนรวมเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนเช่น แม่ชีเทเรซาผู้ล่วงลับเป็นต้น  นี่คือ ปัจจัยที่สร้างความแตกต่าง” (Differentiators) ของผู้นำเหล่านี้ดิฉันมีความเห็นว่าผู้นำระดับสุดยอดของโลกเหล่านี้มีคุณสมบัติอยู่ 2 ประการที่ตรงกันคือมี “Passion” (ฉันทะหรือความรัก) ในงานหรือในเรื่องอะไรที่พวกเขาเหล่านั้นสนใจอย่างจดจ่อไม่วอกแวก และคุณสมบัติข้อที่สองก็คือ วิริยะหรือความเพียรไม่ท้อถอยที่จะทำงานที่รักให้สำเร็จให้จงได้ท่านที่อยากเป็นผู้นำขั้นเทพ คงจะได้แนวทางปฏิบัติเพื่อไปปรับปรุงตัวเองแล้วนะคะ แต่มีข้อเตือนใจอยู่ประการหนึ่งว่า บรรดาผู้นำขั้นเทพเหล่านี้ล้วนทำงานหนักกันทั้งนั้น

Comments are closed.