หัวหน้าต้องเติมเต็มขวัญและกำลังใจให้ลูกน้อง

ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ วางใจว่าหัวหน้างานจะสามารถดึงความสามารถของลูกน้องมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะที่หัวหน้างานเองก็ต้องรับผิดชอบงานที่มีขอบเขตกว้างขวางขึ้น จึงทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะทุ่มเทให้กับการพัฒนาพนักงาน ในทางปฏิบัติแล้วพนักงานก็คงไม่สามารถรอหัวหน้างานได้เช่นเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จึงแนะนำว่า หัวหน้างานสามารถสร้างขวัญและกำลังใจไปพร้อมกับการปฏิบัติงานประจำวันได้ โดยใช้ประโยชน์จาก จังหวะการทำงานที่สอดรับกันเหมือนกับการบรรเลงดนตรีหรือร้องเพลง ที่ต้องเข้าให้ถูกห้องและถูกจังหวะ ไม่เหลื่อมล้ำ ล่าช้า หรือแทรกขึ้นมาตรงกลาง จังหวะการสอดผสานที่ดีมักเกิดขึ้นในจังหวะที่เรารู้สึกอิสระและไม่เป็นทางการมากนัก ดังนั้นต้องรู้จักแสวงหาโอกาสและจังหวะที่ดี แม้แต่เรื่องความคับข้องใจก็สามารถระบายออกมาให้ได้ยินได้ฟัง เมื่อพนักงานรู้สึกผ่อนคลาย ไว้วางใจ และเห็นว่าผู้รับฟังเป็นที่พึ่งได้ ดังนั้นหัวหน้างานและผู้บริหารในทุกระดับชั้นจะต้องทำตัวเป็นกระดาษซับที่ดูดเอาความไม่เข้าใจออกไป และเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพียงเท่านี้ขวัญและกำลังใจของพนักงานก็จะคงอยู่

ก่อนจากกันในวันนี้ ดิฉันขอฝากคำคมไว้ว่า

อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง

Comments are closed.