หัวหน้างาน

ในการปฏิบัติงานในทุกตำแหน่งหน้าที่ ทุกคนปราถนา ถึงความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้นด้วยกันทั้งสิ้น แต่การก้าวไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้น ต้องทำให้หลายต่อหลายคนที่ต้องประสบปัญหาแตกต่างกันไป การจะก้าวขึ้นสู่การเป็นหัวหน้างาน เป็นผู้บังคับบัญชาคนอื่นหลายคน อาจต้องผ่านความยากลำบาก แต่หลายคนอาจจะไม่ต้องฝ่าฟันอะไรมากนักด้วยเหตุอาจจะเพราะโอกาส หรือจังหวะของชีวิต หรือระดับการศึกษา แต่คนทั้งสองกลุ่มจะหลีกไม่พ้นที่จะต้องพบและเจอเหตุการณ์ และสภาวะใหม่ ๆ ที่ไม่เคยชิน ในตำแหน่งงานของเป็นหัวหน้างานที่คล้าย ๆ กัน บางคนไม่สามารถฝ่าด่านการเป็นหัวหน้างานที่มีประสิทธิภาพได้ จนต้องกลับไปเป็นพนักงานเช่นเดิม หลายคนต้องใช้เวลา และโอกาสหลาย ๆ ครั้งหรือการเปลี่ยนงานหลาย ๆ องค์กร ในการเรียนรู้ ยิ่งถ้าหากการก้าวขึ้นเป็นหัวหน้างานภายในองค์กรก็ยิ่งจะลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ได้รับการโปรโมท หรือได้รับการแต่งตั้งภายในองค์กร ในหน่วยงานเดิม เพราะลูกน้องในวันนี้คือเพื่อนร่วมงานของเราเมื่อวานนี้ ไม่รู้ว่าจะสั่งงานอย่างไรดี จะตำหนิหรือพูดอย่างไรเพื่อน (ลูกน้องใหม่) ถึงจะเข้าใจ ทั้งนี้หากจะมองสภาพที่มาของปัญหาในการเป็นหัวหน้างานมือใหม่ พอจะสรุปได้ดังนี้ค่ะ
1.ปัญหาจากภายใน
ได้แก่ปัญหาที่เกิดจากภายในของตัวผู้ที่เป็นหัวหน้างานมือใหม่เอง ที่ยังคงวางบทบาทตัวเองเป็นเหมือนเก่า ยังคิดว่าเขาเป็นเพื่อนเหมือนเดิม หรือบางคนก็คิดในมุมกลับมากเกินไปว่าวันนี้เราเป็นหัวหน้าแล้วจะต้องเป็นอย่างที่หัวหน้าคนเดิมเคยเป็น สั่งอะไรได้ทุกอย่าง เพื่อนร่วมงานจะต้องเชื่อฟังในทันทีที่มีตำแหน่งปะหน้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว การยอมรับนับถือไม่ได้มาจากตำแหน่งหน้าที่เพียงอย่างเดียว องค์ประกอบที่สำคัญคือบารมี บารมีสร้างได้โดยอาศัยอำนาจที่มีให้เป็นประโยชน์ แต่ไม่ใช่ว่ามีอำนาจแล้วบารมีจะต้องมาทันที หลายคนบารมีกลับหดหายเมื่อคิดว่ามีอำนาจสั่งการได้ทุกอย่าง เพราะการที่คนเราจะมีบารมีหรือได้รับการยอมรับกับคนอื่นนั้น ต้องรู้จัก “การให้” ก่อน โดยที่มาของบารมี และการยอมต่อคนที่เป็นหัวหน้างานนั้น มีที่มาที่นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ของตำแหน่งงาน จาก “การให้” จากทางใด ทางหนึ่งดังนี้
1. มาจากความรู้ ความชำนาญในงาน ความสามารถในการแก้ปัญหางาน ที่มากกว่าคนอื่น การยอมรับของคนเรามักจะยอมรับคนที่เก่งกว่าตนเองค่อนข้างง่าย ในประเด็นนี้มักจะเป็นปัญหาใหญ่กับหัวหน้ามือใหม่ค่อนข้างมาก เพราะหัวหน้างานมือใหม่มักจะเจอข้อจำกัดสองขั้น ขั้นแรกเป็นความใหม่ ความน้อยของประสบการณ์ จึงอาจทำให้การแสดงความรู้ความสามารถไม่รวดเร็ว ชัดเจน และแม่นยำ ไม่ตรงกับความคาดหวังของผู้อื่นเท่าที่ควร ยิ่งต้องเป็นตำแหน่งงานที่เคยมีคนเก่าทำไว้ดีอยู่แล้วยิ่งทำให้ผลงานเกิดการเปรียบเทียบกันมากยิ่งขึ้น เพราะลูกน้องหรือคนดูมักจะเปรียบผลงานในวันสุดท้ายของคนเก่าซึ่งผ่านประสบการณ์มามากแล้ว มาเปรียบกันวันแรก ๆ ของคนใหม่ซึ่งยังไม่ประสบการณ์ เมื่อมองเห็นความผิดพลาดบ่อย ๆ ครั้งเข้าความเชื่อถือก็จะค่อย ๆ ลดลง บางครั้งกลายเป็นความฝังใจไปเลยก็มี ข้อจำกัดขั้นที่สองที่หัวหน้างานมือใหม่มักเจอในกรณีนี้ก็คือ ช่วงห่างของฝีมือ ประสบการณ์ระหว่างหัวหน้างานกับลูกน้องที่เคยเป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน ยังไม่ห่างกันมากนัก เวลาที่ผ่านมาส่วนใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยู่ในบทบาทหน้าที่ตำแหน่งงานเดียวกัน ทำให้ความรู้สึกในการยอมรับนับถือยังมีน้อย และการแสดงฝีมือ และความสามารถต้องอาศัยเวลา หรืออาจจะต้องเป็นฝีมือหรือความสามารถที่ชัดเจนจริง ๆ
2. ที่มาของบารมี ที่มาจาก “การให้” อีกอย่างหนึ่งคือ การให้ในเชิงความเข้าใจ ให้ในเชิงเข้าใจความรู้สึกที่แตกต่างกันระหว่างการเป็น “หัวหน้า” กับ “ลูกน้อง” ต้องเข้าใจว่าลูกน้องกำลังรู้สึกอย่างไรกับ “หัวหน้างานมือใหม่” เพราะลูกน้องเองก็ยังยึดติดกับแนวทางของหัวหน้างานคนเก่าอยู่ รวมทั้งยังเกิดความไม่มั่นใจกับฝีมือ ความสามารถของหัวหน้างานคนใหม่ บางทีบางคนยึดมีใจที่รู้สึกริษยาอยู่ลึก ๆ ถึงการที่ตนเองไม่มีโอกาสเช่นเดียวกับหัวหน้างานมือใหม่ ซึ่งเป็นธรรมชาติปกติของมนุษย์ ดังนั้นการบริหาร สั่งงานจึงควรต้องใช้จิตวิทยาการบังคับบัญชา โดยควรสั่งงานด้วยวิธีที่นุ่มนวล เป็นการขอความร่วมมือ มากกว่าจะเป็นการสั่งการหรือการใช้อำนาจ โดยทั้งสองด้านของที่มาของบารมี เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่หัวหน้างานต้องมี ไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง หากไม่มีฝีมือหรือความสามารถในเชิงเทคนิคที่ชัดเจนแล้ว หัวหน้างานจะต้องมีฝีมือ และความสามารถในทางการบริหารและความเข้าใจทีมงาน หากมีทั้งสองด้าน จะทำให้หัวหน้างานนั้นประสบความสำเร็จในการบริหารงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญสำหรับการแก้ปัญหาของหัวหน้างานมือใหม่คือควรจะต้องวิเคราะห์ตนเองในขณะนี้ว่า ทั้งสองด้านของที่มาของบารมีที่กล่าวมานั้น ตนเองมีช่องทางในการสร้างบารมีด้านใดได้ง่ายที่สุด หากมีฝีมือ หรือความสามารถในงานที่โดดเด่น ก็ค่อนข้างจะง่ายในการสร้างการยอมรับจากทีมงาน แต่หากตนเองมีปัญหาของความเป็น “มือใหม่” ทั้งหน้าที่ และบทบาท รวมทั้งความรู้ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งงานใหม่แล้ว ขอแนะนำให้รีบดำเนินการสร้างบารมีและการยอมรับในด้านที่สอง คือการบริหารทีมงานด้วยความเข้าใจ และสร้างการมีส่วนร่วม ขอความร่วมมือจากทีมงาน ควบคู่ไปกับการฝึกฝนพัฒนาความรู้ ความสามารถด้านเทคนิค
2.ปัญหาจากภายนอก
สิ่งที่สำคัญที่หัวหน้างานมือใหม่มักจะรู้สึกแปลกแตกต่าง กับบทบาทหน้าที่ใหม่ก็คือ คนอื่นๆ โดยเฉพาะแผนกอื่น ๆ ผู้บังคับบัญชาในระดับที่สูงขึ้นมักจะจ้องจับผิด หรือตำหนิการทำงานอยู่เสมอ ไม่เห็นเหมือนเมื่อก่อนเลย ในความจริงแล้วตัวเราเองยังรู้สึกว่าตัวเราเป็นแบบเดิม และรู้สึกกับคนอื่นเหมือนเดิม แต่ในทางตรงกันข้ามคนอื่น โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงานแผนกอื่น ๆ จะเริ่มมองเราด้วยภาพที่แตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้เกิดจากความคาดหวัง เกิดจากความต้องการรับรู้ในผลงานของเราในตำแหน่งใหม่ ๆ ไม่ใช่เกิดจากการที่ต้องการจะจับผิดแต่อย่างใด สิ่งที่หัวหน้างานมือใหม่ต้องทำ ก็คือ การปรับตัว เตรียมใจ เข้าสู่บทบาทใหม่ ให้ลืมวันสุดท้ายของตำแหน่งเก่า ๆ แต่ให้คิดว่าวันนี้คือวันแรกของตำแหน่งใหม่แล้ว ถ้าเราเป็นหัวหน้าเราจะคาดหวังอย่างไรกับ “หัวหน้างานมือใหม่” และ สำคัญคือต้องมีความพร้อมในการวางบทบาทของตัวเองกับตำแหน่งงานใหม่
จะเห็นได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับหัวหน้างานมือใหม่ เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่คนทำงานทุกคนต้องเจอ เพียงแต่จะเจอเร็วหรือเจอช้า สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่คนรอบข้าง ตำแหน่งหรือสิ่งแวดล้อม แต่อยู่ที่ตัวเราเองว่าเราจะวางตัว รับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไร

Comments are closed.