The Management Gurus

ความยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว และจีนกำลังเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบันและสำหรับอนาคตอีกอย่างน้อย 80 ปีหรือจนถึงปี 2088 พวกเราปรับเปลี่ยนตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทันหรือไม่ค่ะ? อีก 30 ปีภาษาจีนกลาง คงผงาดขึ้นมาเคียงคู่กับภาษาอังกฤษ ปรัชญาจีนโดยปรัชญาขงจื้อ ที่ดิฉันเคยนำเล่าให้ฟังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเหลาจื้อ จะกลายเป็นหลักปรัชญาที่ชาวโลกจำเป็นต้องศึกษาค่ะ
อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า อะไรที่เป็นภาษาอังกฤษ จะไร้ความหมายไปนะค่ะ อย่างน้อยก็เป็นประวัติศาสตร์ ที่ควรค่าต่อการศึกษาและจดจำเป็นบทเรียนไว้นำไปประยุกต์ใช้ ในการบริหารจัดการสำหรับองค์กรหรือหน่วยงานของท่านค่ะ ในหนังสือชื่อ The Management Gurus ที่เขียนโดย Chris Lauer ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง และคุณสมบัติที่สำคัญของการเป็นผู้นำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ระแวงหรือไม่ไว้ใจกัน ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ท่านเหล่าจื้อเขียนไว้ในคัมภีร์ เต้าเต๋อจิง เมื่อราวๆ 3พันปีที่แล้ว หรือก่อนพระพุทธเจ้าประมาณ 2ร้อยปี ในหนังสือ The Management Gurus ได้เขียนไว้ว่า วัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจคือ รากฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่ขึ้นมาเป็นผู้นำทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นระดับองค์กรหรือประเทศชาติ ถ้าท่านไม่ไว้วางใจลูกน้องของท่านแล้ว ท่านจะเป็นผู้นำได้อย่างไร คุณสมบัติอีกข้อของผู้นำก็คือ ให้ก่อน แล้วจึงค่อยรับ หรือพูดง่ายๆก็คือ ให้ความไว้วางใจก่อน และท่านก็จะได้รับความไว้วางใจจากลูกน้องเป็นการตอบแทน คนที่ขี้ระแวงสงสัยหรือมีอคติ คนประเภทนี้เป็นผู้นำไม่ได้ ผู้นำที่ดีต้องรับฟังจากแหล่งข้อมูลมากกว่าสองแหล่งขึ้นไป แล้วค่อยมาคิด แล้วจึงตัดสินใจ อย่าเชื่อเพราะนั่นเป็นคำพูด หรือข้อมูลจากเพื่อนสนิท มิตรคู่ใจที่ยื่นให้ท่านค่ะ

Comments are closed.