นานมาแล้ว มีพระราชาผู้ซึ่งบอกกับคนขี่ม้าของเขาว่า
ถ้าเขาสามารถขี่ม้าไปครองพื้นที่ได้มากเท่าไหร่ก็ตาม พระราชาจะยกที่ดินนั้นให้กับเขา คนขี่ม้าจึงควบม้าของเขาไปอย่างรวดเร็วเพื่อครอบครองที่ดินให้มากเท่าที่จะทำได้ เขาเร่งควบม้าไปเรื่อยๆ เร็วเท่าที่ม้าจะรับไหว เมื่อเขาหิวหรือเหนื่อย เขาไม่หยุดควบม้า เพราะเขาต้องการครอบครองดินแดนให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อเขามาถึงจุดหนึ่ง เขาหมดแรง และกำลังจะตาย เขาจึงถามตัวเองว่า “ทำไมเราถึงกดดันตัวเองอย่างหนักเพื่อให้ได้ครอบครองผืนดิน?ตอนนี้เรากำลังจะตายและเราก็ต้องการเพียงแค่ที่ดินเล็กๆเพื่อฝังศพตัวเอง” เรื่องข้างต้นก็เหมือนการเดินทางของชีวิตพวกเราพวกเราผลักดันตัวเองอยู่ทุกวันเพื่อให้ได้เงินมาก มีอำนาจ และเป็นที่ยอมรับ วกเราละเลยที่จะดูแลสุขภาพ ให้เวลากับครอบครัวและชื่นชมกับสิ่งสวยงามรอบตัว และงานอดิเรกที่เรารัก วันหนึ่งที่เรามองกลับไป พวกเราจะตระหนักว่าเราไม่ได้ต้องการมันมากนัก แต่เมื่อเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้กับสิ่งที่เราพลาดไป ชีวิตไม่ใช่การสร้างเงิน สร้างอำนาจ หรือการยอมรับ ชีวิตไม่ใช่การทำงาน งานเป็นสิ่งสำคัญเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เราสนุกกับความงามและความพึงพอใจของชีวิต ชีวิตคือความสมดุลของงานและการเล่น ครอบครัวและเวลาส่วนตัว
คุณได้ตัดสินใจว่าจะสร้างสมดุลให้กับชีวิตคุณอย่างไร กำหนดลำดับความสำคัญของคุณเอง ตระหนักว่าอะไรที่คุณสามารถยอมรับได้ แต่จงตัดสินใจด้วยสัญชาตญาณของตัวคุณเอง
ความสุขคือความหมายและจุดมุ่งหมายของชีวิต จุดมุ่งหมายของการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์
ดังนั้น สร้างมันง่ายโดยทำในสิ่งที่คุณต้องการจะทำ และซาบซึ้งกับธรรมชาติชีวิตนั้นเปราะบาง ชีวิตนั้นสั้น ใช้ชีวิตอย่างสมดุลในรูปแบบของคุณเองและสนุกกับมัน