ดิฉันมีเรื่อง วิธีการบริหารจัดการของนักปฏิวัติคนสำคัญผู้ร่วมมือกับ นิโคไล เลนิน ปฏิวัติการเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศรัสเซียให้เป็นสังคมนิยม ต่อมาได้เป็นผู้นำสูงสุดของ ประเทศสหภาพโซเวียตและเผยแพร่อุดมการณ์คอมมิวนิสต์ ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในประเทศแถบยุโรปตะวันออกอีกด้วยซึ่งบุคคลท่านนี้ก็คือ โจเซฟ สตาลิน มาเล่าให้ฟังค่ะ
โจเซฟ สตาลิน ไม่ใช่ชื่อจริงของเขา ชื่อนี้เขาตั้งขึ้นมาเองขณะทำงานให้พรรคคอมมิวนิสต์ (stalin ในภาษารัสเซียแปลว่า เหล็กกล้า) เขาเกิดที่ รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐของจักรวรรดิรัสเซียสมัยนั้น เป็นลูกของช่างทำรองเท้า ส่วนมารดาเป็นคนรับจ้างซักรีดเสื้อผ้าให้กับบ้านเศรษฐีม่ายคนหนึ่ง พ่อของเค้าเป็นคนอ่อนแอผิดกับแม่ซึ่งเข้มแข็ง ความอ่อนแอของพ่อนี่เองที่ทำให้เขาสงสารพ่อและเกียจแม่ สตาลิน หนีออกจากบ้าน หลังจากทะเลาะกับบิดา แล้วถูกตบด้วยรองเท้า เค้าได้รับการศึกษาที่ไม่มากนัก ด้วยฐานะยากจนและหัวไม่ดี ต่อมาในช่วงปี 1900 สตาลิน เข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และปล้นธนาคารในบ้านเกิดของเขาเอง เพื่อเอาเงินไปสนับสนุนพรรค แต่เขาถูกจับได้และถูกเนรเทศไปอยู่ไซบีเรีย บ้างก็ว่าสมัยเขาอยู่จอร์เจีย เค้าได้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง (ซึ่งไม่มีบันทึกชื่อในประวัติศาสตร์) และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน เมื่อสตาลิน กลับมาจากไซบีเรีย เค้าได้ทำงานให้พรรคคอมมิวนิสต์ต่อ และตำแหน่งการงานก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นคนมีความมักใหญ่ไฝ่สูงมาก จน เลนิน ก็รู้สึกกลัวคนๆ นี้ เพราะเขาเป็นคนไม่มีการศึกษา กิริยาท่าทางก็หยาบคาย แต่ความก้าวหน้าของเขาเป็นได้ จากความจงรักภักดีต่อพรรคของเขานั้นเอง ช่วงราวๆปีคศ. 1910-1920 นี้เอง สตาลินแต่งงานแบบมีบันทึกในประวัติศาสตร์ มีลูกชาย 1 คน (ต่อมาทำหน้าที่เป็นนักบินในสงครามโลกครั้งที่ 2) และลูกสาวอีก 1 คน (ต่อมาแต่งงานกับชาวยิว และลี้ภัยทางการเมืองไปอยู่ในอเมริกาหลัง สตาลินตาย)
เมื่อ เลนินตายปี 1923 เขาเสนอชื่อชื่อตัวเองเข้ารับตำแหน่งประธานพรรคคอมมิวนิสต์ตอนนั้นคู่แข่งของเขาคือ ลีออง สตรอยคอฟ ลังเลเพียงเสี้ยวนาทีในการตัดสินใจเสนอชื่อตนเอง ลีออง เลยต้องลี้ภัยการเมืองไปอยู่ เม็กซิโก เพื่อรักษาชีวิตตนเอง แต่เขาก็ถูก สตาลิน ส่งคนไปฆ่า
ในปี 1940 ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง ผู้นำของสหภาพโซเวียต เขาถูกเรียกว่า บิดาแห่งชาวสหภาพโซเวียตทั้งปวง เมื่อศาสนาเป็นสิ่งผิดกฎหมายในรัฐคอมมิวนิสต์ บทบาทของพระเจ้าก็ถูกเล่นโดยสตาลิน เขานำระบบ คอมมูน มาใช้ ทุกคนถูกห้ามมีทรัพย์สินส่วนตัว ทุกอย่างรวมทั้งตัวบุคคลเป็นของพรรค หรือคอมมูน ผู้ต่อต้านถูกส่งไปค่ายกักกันและเสียชีวิตราว 10 ล้านคน ไม่มีการสำรวจประชากรว่า ระหว่างที่เขาเป็นผู้นำประชากรโซเวียต้องตายไปเท่าไร ในช่วงที่มีการปฏิวัติระบบ นารวม มีคนอดตายอีกเป็นล้านๆ คน โดยประชาชนเสียชีวิต 20 ล้านคน ทหารเสียชีวิต 10 ล้านคน เขาสั่งพัฒนาประเทศต่อไปอย่างไม่รีรอ
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มขึ้นกับรัสเซีย สตาลินก็นำสหภาพโซเวียตเข้าร่วมกับฝ่ายพันธมิตร ทำให้ โซเวียตอยู่ในฐานะผู้ชนะสงคราม และกลายเป็นหนึ่งในสองอภิมหาอำนาจของโลก สหภาพโซเวียตจึงกลายเป็นประเทศอภิมหาอำนาจของโลก คู่กับสหรัฐอเมริกาและเป็นการเริ่มต้นของยุคสงครามเย็นที่มีความแตกต่างทางอุดมการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ
สตาลินเสียชีวิตในปี 1953 เมื่ออายุได้ 74 ปี ด้วยเส้นเลือดในสมองแตกขณะเถียงกับ ครุฟซอฟ เรื่องเนรเทศยิวกลุ่มใหม่ไปไซบีเรีย งานศพของเขา มีคนเหยียบกันตายราว 3,000 คน
หลังสตาลินตาย ครุฟซอฟ ผู้นำคนใหม่ได้ผ่อนคลายความเข้มงวดในระบบสตาลินลง พร้อมทั้ง ประณาม ขุดคุ้ย ความโหดร้ายของเจ้านายคนเก่าของเขา จนในที่สุดทุกๆ ที่ ที่มีรูปปั้น สตาลินถูกทุบทิ้ง เพลงชาติถูกลบชื่อของเขาออก ศพของเขาถูกย้ายจากข้างๆ เลนิน ไปฝังอยู่ในกำแพงวังเครมลิน
-
Recent Posts
Recent Comments
Archives
- May 2020
- April 2018
- March 2018
- October 2017
- January 2013
- December 2012
- November 2012
- July 2012
- June 2012
- May 2012
- April 2012
- March 2012
- February 2012
- January 2012
- December 2011
- November 2011
- October 2011
- June 2011
- April 2011
- March 2011
- February 2011
- January 2011
- December 2010
- November 2010
- October 2010
- September 2010
- August 2010
- July 2010
- June 2010
- May 2010
- April 2010
- January 2010
- December 2009
- November 2009
- October 2009
- September 2009
Categories
Meta