ท่านผู้อ่านค่ะ คราวนี้ดิฉันมีนิทาน เรื่อง เศรษฐีปวดหัว มาเล่าให้ฟังดังนี้ค่ะ
เศรษฐีนั้นปวดหัวบ่อยๆ เป็นทุกข์มาก ประกาศใครรักษาได้ จะยกสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง ใครๆ ก็มารักษา ให้ยากิน แต่ก็ได้แต่รักษาอาการ เศรษฐีวันๆ ก็มีแต่โมโหโกรธคนโน่นคนนี้อยู่ทุกวัน วันหนึ่งฤาษีได้มาบอกวิธีรักษาให้ เศรษฐีจะต้องมองสีเขียวอย่างเดียว อาการปวดหัวก็จะหาย เศรษฐีจึงมองไปรอบตัว เห็นสีเขียวน้อยไป ก็เลยสั่งให้ทาสีทั้งหมู่บ้าน แจกเงินไปซื้อเสื้อผ้าสีเขียวมาใส่ให้หมดทั้งหมู่บ้านจึงมีแต่สีเขียวเต็มไปหมด หากเราเคยไปโรงพยาบาลโรคจิต เขาจะทาสีเขียว ไม่ทาสีแดง สีเขียวอ่อนจะทำให้ใจสงบ เศรษฐีเริ่มใจสงบ เพราะชาวบ้านยิ้มแย้ม และตัวเองเริ่มเป็นผู้ให้ทาน ฤาษีกลับมาที่หมู่บ้าน เห็นชาวบ้านทาสีเขียวแถมยังจะวิ่งไล่จับฤาษี มาเอาสีเขียวมาทาเครื่องนุ่งห่มฤาษีวิ่งไปหาเศรษฐี ต่อว่าเศรษฐีว่า ทำไมจึงต้องทาสีเขียวทั้งหมู่บ้าน ทำไมไม่สวมแว่นสีเขียวแทน นิทานเรื่องนี้ บอกให้ทราบว่า บางครั้งเราไปชี้ที่คนอื่นๆ ว่าทำให้เรามีความสุข และทำให้เรามีทุกข์เช่นกัน หากเราคิดไปแก้ที่คนอื่น เราก็แก้ไม่ไหว ต้องแก้ที่ทุกๆ คนเราต้องมาแก้ที่ตัวเราเอง เราชอบโทษคนอื่นว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเป็นทุกข์ แล้วเราก็แก้ทุกข์ไม่ได้ลองพิจารณาดู เวลาเราชี้นิ้วไปที่คนอื่น มี 3 นิ้ว ที่ชี้มาที่ตัวเรา มีเพียงนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้นที่ชี้ไปที่คนอื่น การที่เราต้องการให้ลูกน้องสงบ เราต้องสงบยิ้มแย้ม เขาก็กล้ามาหา หากเราดุ ก็มีแต่คนหนีเด็กๆ เล็กๆ ก็ยังวิ่งมาหา หากเราเด็ดขาด ดุ คนรอบตัวก็จะหนีหมด