จอมโปรเจกต์ วาดฝันสวยหรูแต่ไม่เคยลงมือทำ

การบริหารทรัพยากรบุคคลให้บรรลุเป้าหมาย แล้วต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ แต่โดยทั่วไปมีองค์ประกอบสำคัญอยู่ 4 ประการ ก็คือ

สรรหา คือการเสาะแสวงหา เลือกสรรคนดีมีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถเหมาะกับงาน
พัฒนา พยายามทำให้คนดี มีความรู้ มีความสามารถเพิ่มขึ้น ตลอดจนทำให้มีทัศนคติ มีพฤติกรรมที่ดีในการทำงาน
รักษาไว้ พยายามทำให้คนทำงานรู้สึกพอใจในการทำงาน ได้รับความดีความชอบด้วยความเป็นธรรม มีความสุขในที่ทำงาน ไม่คิดโยกย้ายไปอยู่ที่อื่น
ใช้ประโยชน์ คือการใช้คนให้ได้ประโยชน์เต็มที่ ใช้คนให้ตรงกับงาน ตรงกับความรู้ความสามารถ ไม่เอารัดเอาเปรียบบริษัทหรือเพื่อนร่วมงานคนอื่น
หากคุณลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า คุณเป็นคนโมโหร้ายหรือเปล่า
สังเกตดูสิว่า เวลาโมโหทีไรเป็นต้องระเบิดอารมณ์ทั้งคำพูดและการกระทำ เช่น ด่าว่า ทำลายข้าวของ หรือลงมือลงไม้โดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แล้วมานั่งเสียใจภายหลังว่าไม่ควรทำอย่างนั้นเลย คุณสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใจเย็นลงได้  โดยกรมสุขภาพจิตมีคำแนะนำดังนี้
         ถ้าคุณรู้สึกโกรธ พยายามบอกตัวเองให้หยุดคิดสักอึดใจหนึ่งก่อน ช่วงนี้ให้พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ พร้อมทั้งนับหนึ่งถึงสิบในใจไปด้วย     ถ้าเป็นไปได้ควรหลบเลี่ยงให้พ้นจากบุคคลหรือสถานการณ์ที่ทำให้โกรธชั่วคราว เพราะมันจะช่วยลดอารมณ์โกรธให้น้อยลง และตัดโอกาสที่คุณจะทำอะไรรุนแรงลงไปได้ หลังจากนั้น ให้ระบายอารมณ์โกรธในทางที่เหมาะสม เช่น เตะลูกฟุตบอล ชกกระสอบทราย ซักผ้าแล้วขยี้แรงๆ วิ่งไกลๆ ให้ได้เหงื่อ เป็นต้น จะช่วยสลายความโกรธไม่ให้สะสมอยู่ในใจ
           นอกจากนี้คุณควรหาทางผ่อนคลายความเครียดเป็นประจำทุกวัน เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ ร่างกายจะได้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า จิตใจแจ่มใส ไม่หงุดหงิดโกรธง่ายอย่างแต่ก่อน และถ้าฝึกสมาธิได้ก็จะเป็นการดี จิตใจของคุณจะสงบเยือกเย็นลงกว่าเดิม แต่ถ้าลองทำดูแล้วไม่ได้ผลก็ควรไปหาแพทย์ เพื่อรับการรักษาต่อไป
           การเป็นคนโมโหร้าย นอกจากตัวคุณเองไม่มีความสุขแล้วจะพลอยทำให้คนใกล้ชิดรอบข้างเดือดร้อน หรือไม่มีความสุขตามไปด้วย
          โปรโมตลูกน้องให้ได้ดี   การโปรโมตลูกน้องให้มีตำแหน่งที่สูงขึ้นหรือเพิ่มเงินเดือนให้นั้น ส่วนมากเกิดจากสถานการณ์บังคับ คือลูกน้องมีข้อต่อรองที่เป็นต่อ เช่น จะยกทีมออก หรือลาออกไปอยู่กับคู่แข่ง ลำพังหัวหน้าหรือบริษัทเองไม่มีความคิดที่จะเพิ่มรายจ่ายในส่วนนี้หรอก โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างนี้

แต่ถ้าบริษัทมีนโยบายให้คุณเป็นหัวหน้า ช่วยคัดเลือกว่าจะส่งเสริมพนักงานคนไหน คุณจะทำอย่างไรดี เพราะถ้าเลือกไม่ดี ได้คนไม่เหมาะสมมา (หรือเอาคนของตัวเองขึ้นมา) ผลงานย่อมไม่ได้ตามที่ต้องการแน่ และคนดีๆ คนอื่นอาจจะหมดกำลังใจทำงาน การบริหารเกิดความยุ่งยาก ไม่มีใครให้คามร่วมมือ เกิดความระส่ำระสายแบ่งพวกแบ่งฝ่ายไปทั่วองค์กร
การเลือกโปรโมตคนนอกจากจะดูที่นิสัยใจคอ และบุคลิกภาพเหมาะกับตำแหน่งแล้ว ความรู้ความสามารถที่พร้อมจะทำงานนั้นได้เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง   คนที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าหรือรับผิดชอบงานใหญ่โตนั้น จะต้องวิเคราะห์งานเป็น สามารถคิดงานใหม่ สานงานเก่า ไม่ใช่รอคำสั่งอย่างเดียว    สามารถทำงานประจำและงานจรจนสำเร็จลุล่วงตามที่ได้รับมอบหมาย ไม่ใช่พอเป็นหัวหน้างานแล้วทำตัวยุ่งจนงานไม่เสร็จสักอย่าง อย่าลืมว่าตำแหน่งสูงขึ้นก็ต้องรับผิดชอบงานกว้างขึ้น ต้องบริหารเวลาเป็น เพราะจะมีงานนอกเหนือความรับผิดชอบมาให้ทำอยู่เรื่อยๆ
         หัวหน้างานควรผ่านการทำงานชนิดนั้นมาก่อน จะได้รู้ว่าทำอย่างไร มีรายละเอียด ขั้นตอนอย่างไรบ้าง ต้องรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร ไม่ใช่เอาใครจากที่ไหนมาก็ไม่รู้ ยิ่งประเภทจอมโปรเจกต์ วาดฝันสวยหรูแต่ไม่เคยลงมือทำนะ จะทำให้ลูกน้องหรือผู้ร่วมงานอึดอัดใจเปล่า ๆ        หัวหน้างานต้องทำงานเป็นทีม รู้วิธีดึงความสามารถของลูกน้องมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับงาน รู้จักพูดจูงใจคน นอกจากนี้ต้องประสานงานกับฝ่ายอื่นได้ดี ไม่ดูถูกคนอื่น ยกย่องให้เกียรติทุกคน ไม่ใช่ดีแต่แผนกของตัวเอง เข้าข้างแต่แผนกของตัวเอง แต่ไม่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือฝ่ายอื่น พายเรือคนละทิศแบบนี้สักวันบริษัทก็ตรงอยู่ตรงนั่นเอง    
         คนจะเป็นใหญ่เป็นโตต้องรู้จุดดีจุดด้อยของตัวเอง พร้อมจะหาคนมาช่วยเสริมจุดด้อยโดยไม่รู้สึกเสียหน้า คนที่เอาแต่เขม่นหรือหมั่นไส้คนที่เก่งกว่า ไม่สมควรให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลูกน้องเก่งๆ หนีหมด
หัวหน้างานต้องมองภาพรวมเป็น รู้เป้าหมายใหญ่คืออะไร เป้าหมายรองอยู่ไหน ไม่ใช่มองแต่ผลสำเร็จเล็กๆ แคบๆ ในส่วนของตนเท่านั้น ต้องสนับสนุนงานส่วนอื่นที่จะทำให้เป้าหมายใหญ่บรรลุผลสำเร็จร่วมกันด้วย    ยิ่งตัวคุณเองซึ่งมีหน้าที่เลือกคนมาโปรโมตด้วยแล้ว ต้องมองทั้งภาพกว้างภาพไกล รอบคอบและยุติธรรม มองประโยชน์ขององค์กรเป็นที่ตั้ง จะได้เลือกคนไม่ผิด    คนที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้างานหรือรับผิดชอบงานใหญ่ได้นั้น จะต้องวิเคราะห์งานเป็นสามารถคิดงานใหม่สานงานเก่า ไม่ใช่รอแต่คำสั่งอย่างเดียว

Comments are closed.