Leader หรือ ผู้นำ จะต้องมีความรู้สึกต้องการ รับใช้ ช่วยเหลือ อยากจะให้ผู้อื่นได้ดี

นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เคยให้คำนิยามของคำว่า   ผู้นำไว้ว่า ผู้นำคือใครก็ตามที่ผู้อื่นอยากจะเดินตาม”    ดไว้ท์ ดี ไอเซ่นฮาวเออร์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ก็เคยให้คำจำกัดความของคำว่าผู้นำไว้ว่า  “ผู้นำคือผู้ที่ทำให้ผู้อื่นทำในสิ่งที่เขาต้องการ   โดยผู้นั้นเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะทำเอง   ลอร์ด มอนต์โกเมอร์รี่ ผู้นำทางการทหาร กล่าวว่า  การเป็นผู้นำคือ  ความสามารถและความตั้งใจ  ที่จะปลุกเร้าผู้คนทั้งชายหญิงให้มีเป้าหมายเดียวกัน   และไปในทิศทางเดียวกัน  เป็นบุคลิกที่ดลใจให้คนอื่นเกิดมีความมั่นใจ

       ในความคิดของคนทั่วๆ ไป คำว่า ผู้นำ”   หมายถึง อำนาจ  ศักดิ์ศรีและเกียรติ ผู้นำที่ดีต้องเริ่มที่ความอยากจะรับใช้ผู้อื่น  Robert K. Greenleaf    ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารของ AT&T  ระบุไว้เลยว่า  Leader หรือ ผู้นำ    จะต้องมีความรู้สึกต้องการ รับใช้  ช่วยเหลือ  อยากจะให้ผู้อื่นได้ดี  และจากความรู้สึกดังกล่าว จนถึงอยากจะเป็นผู้นำและประเด็นสำคัญคือ  ต้องอย่าให้ความทะเยอทะยานของตนเอง อยู่เหนือความถูกต้องที่ควรจะเป็น   ได้ลักษณะของผู้นำไว้  1ประการ ดังนี้

        คุณลักษณะแรกคือต้องมีทักษะในการฟัง (Listening)   จะต้องเป็นผู้ฟังที่ดี และพร้อมที่จะรับฟังผู้อื่นอย่างจริงใจ    โดยจะต้องเป็นผู้ที่สนใจและพร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

       คุณสมบัติประการที่สองคือ ความเข้าใจในผู้อื่น (Empathy)   จะต้องมีความพยายามในการทำความเข้าใจผู้อื่น     เนื่องจากบุคคลต่างๆ นั้น  ต้องการให้เป็นที่ยอมรับในความแตกต่างของแต่ละ      

        คุณสมบัติประการที่สามคือ  ความสามารถในการกระตุ้นและให้กำลังใจผู้อื่น (Healing)    เนื่องจากบุคคลต่างๆ ในองค์กรจะประสบกับปัญหา และอุปสรรคต่างๆ นานัปการ    และอาจจะนำไปสู่การบาด เจ็บ (ทางจิตใจ)

       คุณสมบัติระการที่สี่ คือ ความตระหนัก (Awareness)     โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตระหนักในตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง   เนื่องจากถ้าเราตระหนักและรู้จักตนเองเป็นอย่างดีแล้ว จะทำให้เรามองปัญหาต่างๆ ด้วยความรอบคอบจากมุมมองต่างๆ ที่กว้างขึ้น

       คุณสมบัติประการที่ห้า คือ ความสามารถในการเกลี้ยกล่อมผู้อื่น (Persuasion)   จะไม่เน้นการสั่งการตามตำแหน่งหน้าที่ที่มี แต่จะเน้นการเกลี้ยกล่อม หรือชี้ชวนให้ผู้อื่นเห็นด้วยและทำตาม

       คุณสมบัติประการที่หก คือ  ความสามารถในการมองภาพในเชิงองค์รวม  (Conceptualization)  จะไม่มองภาพเป็นจุดๆ หรือเป็นปัจจุบันเท่านั้น   แต่จะมองสิ่งต่างๆ ในเชิงองค์รวม และไม่ได้มองเฉพาะสิ่งที่เป็นเป้าหมายในปัจจุบัน     แต่จะมองภาพใหญ่และสิ่งที่ต้องการไปสู่ในอนาคต

       คุณสมบัติประการที่เจ็ด คือความสามารถในการมองเห็นสิ่งที่จะเกิดในอนาคต (Foresight)   

 คุณลักษณะนี้ค่อนข้างใกล้เคียง กับคุณสมบัติประการที่หก     จะเป็นผู้ที่สามารถคาดการณ์หรือมองเห็นถึงแนวโน้ม หรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งผลกระทบต่างๆ ของสิ่งที่ได้ตัดสินใจลงไป

       คุณสมบัติประการที่แปดคือ  เป็นความสามารถในการจัดการ การบริหารดูแล (ในบ้านหรือองค์กร) จะต้องทำหน้าที่เช่นคนต้นเรือนที่ดูแล บริหารจัดการบุคคลภาย ใต้ความดูแล  โดยมุ่งมั่นในการเตรียมองค์กรให้สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม

       คุณสมบัติประการที่เก้าได้แก่การให้ความสำคัญต่อการเติบโต และพัฒนาของผู้อื่น (Commitment to the Growth of People) จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ที่จะให้บุคคลอื่นในองค์กรได้มีการเติบโต 

       คุณสมบัติประการสุดท้าย คือ   การ สร้างบรรยากาศการทำงาน ค่ะ

Comments are closed.