ดิฉันมีเรื่อง ศาสตร์และศิลป์ของการบริหารจัดการแบบ เหมาเจ๋อตุง ผู้นำในการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าสู่ระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ปลุกเร้าให้ประชาชนจีนต่อสู้กับความยากจน และยึดมั่นในการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ มาเล่าให้ฟังค่ะ
เพิ่งครบรอบ 60 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมาเมื่อต้นเดือนนี้เอง เมื่อพูดถึงการสถาปนาประเทศจีน บุคคลซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ก็คือท่านประธานเหมา หรือว่าประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตุง ผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่จตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม คริตส์ศักราช 1949 เหมา เจ๋อ ตุง เป็นผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนขึ้นในปี คริตส์ศักราช 1921 และเป็นแกนนำหยุดงานประท้วงของคนงานเหมืองแร่ที่อันหยวน เขียนหนังสือเรื่อง "พลังปฏิวัติเบ่งบานออกมาจากปากกระบอกปืน" ก่อตั้ง กองทัพแดงกรรมกร และชาวนา ตามด้วยกองทัพปลดแอกประชาชน ปฏิบัติการ ป่าล้อมเมือง ที่มีชัยเหนือเจียง ไค เช็ก
ประธาน เหมา เกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปีคริตส์ศักราช 1893 ในครอบครัวชาวนา โดยอาศัยอยู่ในเขตชนบทเสาซัน อำเภอเซียงถัน มณฑลหูหนาน เมื่ออายุได้ 8 ขวบ ได้เข้าเรียนโรงเรียนประถมในหมู่บ้าน ร่ำเรียนหลักคำสอนลัทธิขงจื้อ ปลูกฝังความคิดตามจารีตโบราณ ท่านเหมาสอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยครูหูหนัน ป็นนักศึกษาที่ขยันเรียน ขณะเดียวกันก็สนใจการเคลื่อนไหวทางการเมืองและสังคม และได้เข้าร่วมในการต่อสู้การคัดค้าน หยวนซื่อข่าย หรือประธานาธิบดีเผด็จการ สมัยนั้นและเริ่มได้รับอิทธิพลทางความคิดลัทธิมาร์กซ์ เวลาว่างจะเขียนบทความลงหนังสือของวิทยาลัยครู โดยใช้นามแฝงว่า "เอ้อสือ ปาวาเซิง" หรือ "นายยี่สิบแปดขีด" ตามชื่อของท่านเหมา ที่เมื่อเขียนเป็นภาษาจีนแบบตัวเต็มรุ่นเก่า จะมีทั้งหมด 28 ขีด งานเขียนก็มักวิพากษ์วิจารณ์การปกครองของราชสำนักชิง ซึ่งเป็นชาวแมนจู ซะส่วนใหญ่ ต่อมา ท่านเหมาเป็นครูสอนที่โรงเรียน และเปิดโรงเรียนกลางคืน สอนเยาวชนที่ด้อยโอกาส ทำให้เป็นที่จับตาของสายลับรัฐบาล แต่นั่นก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย ต่อมาท่านเหมาสามารถรวมพล ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปีคริตส์ศักราช1921 เข้าร่วมการประชุมผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศ ครั้งที่ 1 ที่เซี่ยงไฮ้ ทำหน้าที่เป็นเลขาธิการกรรมการพรรคเขต หูหนัน นำการเคลื่อนไหวในกลุ่มกรรมกร และชาวนา ได้เสนอแนวทาง "ยืนหยัดการนำของชนชั้นกรรมาชีพ ต่อการปฏิวัติประชาธิปไตย โดยอาศัยพันธมิตรกรรมกรชาวนาเป็นพื้นฐาน" มีความเชื่อมั่นอย่างสูงกับแนวทางการปฏิวัติของชาวนา โดยประกาศว่าการปฏิวัติของจีนต้องอาศัยชนชั้นชาวนาแทนที่จะเป็นชนชั้นกรรมาชีพดังที่กล่าวไว้ในลัทธิมาร์กซ์-เลนิน วิธีการของเหมาเป็นแบบ กองโจร อย่าให้ศัตรู ได้ทันตั้งตัว จงถอยเมื่อเค้ารุก จงโจมตีเมื่อเค้าหยุดพัก
ต่อมาได้จับมือกับนายพลจูเต๋อ นำกองกำลังชาวนาและกรรมกรเข้าร่วมเป็นกองกำลังจรยุทธ์ ประกาศจัดตั้งประเทศสาธารณรัฐจีน-โซเวียตหรือ หรือ The Chinese Soviet Republic ในเจียงซี โดยท่านเหมาเป็นประธาน แต่คณะกรรมการกลางยังคงต่อต้าน แนวนโยบายและการทหารที่ใช้กองกำลังชาวนา และทางฝ่ายเจียงไคเช็ก ก็รณรงค์กวาดล้างกองทัพแดงให้สิ้นซาก ดังนั้น ท่านเหมาและนายพลจูเต๋อ ได้นำกองทัพแดงต้านการล้อมปราบครั้งใหญ่ 4 ครั้งด้วยความสำเร็จ แต่พ่ายแพ้การล้อมปราบครั้งที่ 5 จึงต้องทิ้งฐานที่มั่น นำกองกำลังประมาณ 100,000คน เดินทัพทางไกล 25,000 ลี้ หรือประมาณ 12,500 กิโลเมตร ไปทางเหนือซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 3 ปี ช่วงปี 1937-1945 ท่านเหมานำพรรค กองทัพและประชาชน ทำสงครามประชาชนต่อต้านญี่ปุ่นด้วยยุทธวิธี "สงครามยืดเยื้อ" จนได้ชัยชนะ และในปี 1943 ท่านเหมาได้รับเลือกเป็น ประธานคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และได้ดำรงตำแหน่งนี้ ต่อเนื่องทุกสมัยจนถึงแก่อสัญกรรมในปี 1976 ด้วยอายุ 83 ปี ท่านเหมาได้นำกองทัพปลดแอกและประชาชนจีน ทำสงครามทำลายการรุกโจมตีของฝ่ายเจียงไคเช็ค โดยเป็น ผู้บัญชาการสู้รบในยุทธการและได้รับชัยชนะขั้นเด็ดขาด จนสามารถยึดอำนาจรัฐได้ทั่วประเทศ หลังได้รับชัยชนะแล้ว ประธานเหมาเจ๋อตงประกาศสถาปนา สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จตุรัสเทียนอันเหมิน ในกรุงปักกิ่งใน วันที่ 1 ตุลาคม ปี 1949 ทำให้ชนชั้นหัวกะทิรู้สึกไม่พอใจที่คนมีความรู้ชั้นประถมปกครองประเทศ เหมาได้ทดลองใช้ระบบประชาธิปไตยครั้งแรก ให้ปัญญาชนแสดงทัศนะ เหมาให้ความเห็นว่า นี้คือ หนึ่งร้อยบุปผาได้เบ่งบาน หนึ่งร้อยบุปผาได้ชัยชนะ เค้าคาดการผิด ป้ายโปสเตอร์ขนาดใหญ่ถ้อยคำที่รุนแรง เหมาถูกสั่งคลอน เหมารู้สึกถูกคุกคาม เป็นครั้งสุดท้ายที่เหมารับฟังความคิดเห็น และเหมา กะจับพวกที่แสดงความคิดเห็น คนหลายแสนคน โดนว่าเป็นคนฝ่ายขวา เข้าเรือนจำ ถูกส่งไปใช้แรงงานชนบท จากผู้นำยอดนิยมเค้ากลายเป็นฆาตกรและเผด็จการ ที่วิตกจริตหลังการตั้งประเทศจีนใหม่ ประธานเหมาได้นำพรรคและประช าชนปรับปรุงปฏิรูปด้านต่างๆ อาทิ การปฏิรูปที่ดิน ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประชาชาติ ปรับปรุงให้อุตสาหกรรมและวิสาหกิจสำคัญเป็นแบบสังคมนิยม ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับการคุกคามจากต่างประเทศ ควบคู่ไปด้วย จากการประเมินสถานการณ์การต่อสู้ทางชนชั้นภายในประเทศผิดพลาด จนทำให้การเคลื่อนไหวขยายวงกว้างเกินที่จะควบคุมได้ สร้างความเสียหายแก่ประเทศและประชาชน ในระหว่างนั้นท่านเหมาก็ได้มองเห็นความผิดพลาด และพยายามยับยั้งความเสียหายแต่ก็ไม่เป็นผล การปฏิวัติวัฒนธรรมกินเวลาถึง 10 ปี ภายหลังการถึงแก่กรรม 5 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ทำการประเมินผลงานและความผิดพลาดของเหมาอย่างรอบด้าน และได้ข้อสรุปว่า แม้ในบั้นปลายชีวิตของเหมาจะได้ทำความผิดพลาดที่ร้ายแรง ในเหตุการณ์เคลื่อนไหวปฏิวัติวัฒนธรรม แต่ถ้าเทียบกับผลงานที่ยิ่งใหญ่ และยาวนานที่สร้างให้แก่แผ่นดินและประชาชนจีน คุณความดีของเหมา ก็มีมากกว่าความผิดพลาด ประธานเหมาเจ๋อตุงยังคงเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่เคารพรักของประชาชนจีน เค้าได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของการก่อตั้งจีนใหม่ ผู้เปลี่ยนจาก ลัทธิมาร์ก มาเป็นลัทธิเหมา และทำให้ประชากรชาวจีน เกิดความภาคภูมิและเกิดการเคารพตนเองค่ะ
-
Recent Posts
Recent Comments
Archives
- May 2020
- April 2018
- March 2018
- October 2017
- January 2013
- December 2012
- November 2012
- July 2012
- June 2012
- May 2012
- April 2012
- March 2012
- February 2012
- January 2012
- December 2011
- November 2011
- October 2011
- June 2011
- April 2011
- March 2011
- February 2011
- January 2011
- December 2010
- November 2010
- October 2010
- September 2010
- August 2010
- July 2010
- June 2010
- May 2010
- April 2010
- January 2010
- December 2009
- November 2009
- October 2009
- September 2009
Categories
Meta